ไลฟ์สไตล์ของสาวๆ จะแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะการทำงาน การกิน การพักผ่อน หรือเรื่องเซ็กส์ของสาวๆ เองก็ตาม เช่น บางคนก็คิดที่จะสร้างครอบครัวกับใครสักคนใช้ชีวิตคู่อย่างมีความสุข หรือบางคนก็ยังชอบที่จะมีชีวิตสุดเหวี่ยงที่ไม่ผูกมัดกับใคร และด้วยไลฟ์สไตล์เหล่านี้ ก็จะต้องมาคู่กับการดูแลตัวเองที่ไม่เหมือนกัน โดยเฉพาะเรื่องความสัมพันธ์บนเตียง
‘วิธีคุมกำเนิด’ เป็นส่วนสำคัญของความสัมพันธ์บนเตียง เพราะสำหรับสาวๆ บางคนที่ใช้ชีวิตแบบสุดเหวี่ยงกับการไม่ผูกมัดกับใคร จะต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันการท้อง และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรืออาจเป็นสาวๆ บางคนที่ยังไม่ได้คิดว่าจะมีน้องมาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวตอนนี้ หรือตลอดชีวิต จึงอยากที่จะป้องกันไว้ก่อน
วิธีคุมกำเนิดมีอยู่หลากหลายวิธี แต่ละวิธีมีประสิทธิภาพ ข้อดี ข้อเสีย และความเหมาะสมที่แตกต่างกันไป โดยวิธีการเลือกใช้วิธีคุมกำเนิดต่างๆ นี้จะขึ้นอยู่กับความต้องการ และความสะดวกของสาวๆ แต่ละคน
ก่อนที่สาวๆ จะไปเลือกวิธีคุมกำเนิดกัน เราจะต้องรู้จักวิธีคุมกำเนิดแต่ละรูปแบบก่อนนะคะ ซึ่งซิสได้รวบรวมมาให้อ่านกัน 5 วิธีนะคะ จะมีอะไรบ้าง อ่านหัวข้อถัดไปได้เลยค่ะ!
5 วิธีคุมกำเนิด แบบไหนเหมาะกับตัวเราที่สุด!?
1. ยาเม็ดคุมกำเนิด
ยาเม็ดคุมกำเนิดจะมี 3 แบบด้วยกัน ก็คือ ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม และยาคุมฉุกเฉิน เป็นต้น
ยาเม็ดคุมกำเนิดแต่ละประเภทขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคน และแต่ละประเภทก็มีประโยชน์แตกต่างกันไป ซึ่งสาวๆ สามารถไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมกันได้ที่ ยาคุมกำเนิดแบบไหน? เลือกยังไงให้เหมาะกับตัวเอง ในบทความนี้ ซิสได้รวบรัดสรุปแบบสั้นๆ มาให้สาวๆ ได้ศึกษาเบื้องต้นกันค่ะ
1.1 ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว
เป็นยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดที่มีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเพียงอย่างเดียว ปราศจากฮอร์โมนเอสโตรเจน หรือ Ethinylestradiol (EE) ซึ่งเหมาะกับผู้ที่มีข้อห้ามใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจน หรือใช้ในช่วงที่ให้นมบุตรหลังคลอด, คนที่ปวดหัวไมเกรน, หรือผู้หญิงที่อายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป รวมทั้งคนที่สูบบุหรี่, เป็นโรคอ้วน, ไขมันในเลือดสูง, หรือมีความเสี่ยงเป็นโรคความดันสูง หรือโรคเบาหวาน
1.2 ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม
เป็นยาคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจน และโปรเจสโตรเจน แบ่งออกเป็น
- แบบ 21 เม็ด จะประกอบด้วยเม็ดยาฮอร์โมน 21 เม็ด เมื่อกินหมดแผงแล้ว ต้องเว้นยา 7 วัน แล้วค่อยเริ่มกินยาแผงใหม่
- แบบ 21+7 เม็ด จะประกอบด้วยเม็ดยาฮอร์โมน 21 เม็ด และเม็ดแป้ง 7 เม็ด เมื่อกินครบ 28 เม็ดแล้วสามารถเริ่มกินยาแผงใหม่ได้ในวันถัดไป
- แบบ 24+4 เม็ด จะประกอบด้วยเม็ดยาฮอร์โมน 24 เม็ด และเม็ดแป้ง 4 เม็ด เมื่อกินครบ 28 เม็ดแล้วสามารถเริ่มกินยาแผงใหม่ได้ในวันถัดไป ซึ่งยาคุมสูตรนี้จะมีข้อดีที่แตกต่างจากยาคุมฮอร์โมนรวมสูตรอื่นๆ คือสามารถรักษาอาการก่อนมีประจำเดือน (PMS) ได้
ถ้าหากสาวๆ อยากทราบว่าอาการก่อนมีประจำเดือนคืออะไร ทุกคนสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ในบทความนี้เลยค่ะ ‘วีนเก่งงงง อาการก่อนเป็นประจำเดือนที่สาวๆ เจอ!’
1.3 ยาคุมฉุกเฉิน
เป็นยาคุมกำเนิดที่ใช้สำหรับหลังมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ ซึ่งควรทานภายใน 12 ชั่วโมง และไม่เกิน 72 ชั่วโมง ซึ่งมีทั้งแบบ 1 เม็ดและแบบ 2 เม็ด ด้วยตัวยามีปริมาณฮอร์โมนที่สูง อาจมีผลข้างเคียงตามมาได้
- ยาฉีดคุมกำเนิด จะมีประสิทธิภาพไม่แตกต่างจากยาเม็ดคุมกำเนิดมากนัก จะช่วยไม่ให้เกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันส่งผลให้สามารถยังให้นมลูกได้ แต่การฉีดยาคุมกำเนิดอาจส่งผลให้เกิดฮอร์โมนแปรปรวนในร่างกาย ทำให้มีอาการไม่พึงประสงค์ เช่น อารมณ์แปรปรวน น้ำหนักขึ้น หรือลดลงอย่างเห็นได้ชัด ประจำเดือนมาไม่ปกติ แต่อาการจะหายไปเมื่อหยุดฉีดยา
- ยาฝังคุมกำเนิด เป็นการฝังหลอดยาเล็กๆ ลงที่ใต้ผิวหนังของท้องแขน โดยตัวยาจะออกฤทธิ์ได้นาน มีประสิทธิภาพในการตั้งครรภ์สูง ไม่ส่งผลต่อการผลิตน้ำนม จึงเหมาะกับคุณแม่ที่ต้องให้นมลูกน้อย แต่อาจส่งผลต่อการมีประจำเดือนที่มาไม่ปกติ
- ยาแผ่นแปะคุมกำเนิด เป็นการปล่อยฮอร์โมนผ่านทางผิวหนัง โดยจะเปลี่ยนแผ่นแปะคุมกำเนิดทุกสัปดาห์ มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดค่อนข้างดี แต่ไม่สามารถที่จะป้องกันการติดโรคทางเพศสัมพันธ์ได้ และการแปะแผ่นคุมกำเนิดจะทำให้รู้สึกระคายเคืองผิว คัน และเจ็บแสบ
2. ถุงยางอนามัย
เป็นวิธีคุมกำเนิดที่ง่าย และเป็นที่นิยมมากที่สุด ซึ่งมีทั้งแบบของผู้ชายและของผู้หญิง ช่วยลดอาการเจ็บระหว่างการทำกิจกรรม นอกจากจะคุมกำเนิดแล้ว ยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อีกด้วย เหมาะสำหรับสาวๆ และหนุ่มๆ ทุกคน
3. ห่วงคุมกำเนิด
เป็นห่วงพลาสติกบาง ๆ ที่ต้องใส่เข้าไปในช่องคลอด ใช้งานได้นาน และมีประสิทธิภาพคุมกำเนิดได้ดี โดยห่วงจะออกฤทธิ์ยาแค่ที่มดลูกจึงไม่มีผลกระทบต่อฮอร์โมนมากนัก แต่วิธีนี้ต้องใส่โดยแพทย์เท่านั้น ฉะนั้นสาวๆ ทุกคนที่อยากใส่ห่วงคุมกำเนิดควรจะปรึกษาแพทย์ และผู้เชี่ยวชาญก่อนจะดีที่สุดค่ะ
4. วิธีธรรมชาติ
- การนับวันตกไข่ เป็นวิธีการหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงตกไข่และวันเสี่ยงก่อนหลัง หรือที่หลายๆ คนเคยได้ยินคือ หน้า 7 หลัง 7 ซึ่งการนับวันตกไข่จะมีความเสี่ยงในการตั้งครรภ์สูงมาก ฉะนั้นวิธีนี้จึงเหมาะกับสาวๆ ที่มีรอบประจำเดือนสม่ำเสมอเท่านั้น อาจคลาดเคลื่อนได้ง่าย
- วิธีการถอนอวัยวะเพศชายออกก่อนหลั่ง เป็นวิธีที่ไม่แนะนำอย่างยิ่ง เพราะมีประสิทธิภาพต่ำมาก ผิดพลาดได้ง่าย และไม่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ และเพิ่มความเสี่ยงในการตั้งครรภ์มากขึ้นด้วย
5. การทำหมัน
เป็นวิธีคุมกำเนิดถาวร ส่วนใหญ่การผ่าตัดทำหมันจะทำให้ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง โดยมีประสิทธิภาพการป้องกันการตั้งครรภ์สูงสุด ยังมีความรู้สึกทางเพศเหมือนเดิม และระดับฮอร์โมนในร่างกายเหมือนเดิม สำหรับสาวๆ เองก็ยังคงมีประจำเดือนอยู่เหมือนปกติ การทำหมันจึงเหมาะสำหรับคนที่ไม่ได้มีแผนว่าจะมีลูกอีกแล้ว
ซิสขอแนะนำว่าสาวๆ ควรมาปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนนะคะ เพื่อเราจะได้พิจารณาปัจจัยต่างๆ ร่วมกัน แล้วหาวิธีที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และเหมาะกับสไตล์ของสาวๆ มากที่สุด แต่ไม่ว่าจะเลือกวิธีไหน สิ่งที่สำคัญก็คือ เรารู้จักป้องกัน และสร้างความปลอดภัยให้ตัวเราเอง ซิสเชื่อว่าสาวๆ จะสามารถใช้ชีวิตได้มีความสุขด้วยสุขภาพที่ดี ได้แน่นอนค่ะ
และหากสาวๆ คนไหนยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการคุมกำเนิด สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านฮอร์โมนและการคุมกำเนิดได้ที่.. ‘PHARMASIS’ ร้านขายยาที่เข้าใจผู้หญิง ตามร้านขายยาที่อยู่ใกล้บ้านของทุกคนได้เลยค่ะ
ค้นหาร้านขายยาที่เข้าใจผู้หญิงใกล้บ้านได้ตามลิงก์นี้เลยนะคะ คลิก