คุมกำเนิดแบบไหน เลือกยังไงให้เหมาะกับเรา?

คุมกำเนิดแบบไหน เลือกยังไงให้เหมาะกับเรา?

รูปแบบความสัมพันธ์ในยุคปัจจุบัน เริ่มมีหลากหลายมากขึ้น ที่ไม่ใช่แค่สายคู่รักเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีทั้งสาย One night stand แลกเปลี่ยนความต้องการกันและแยกย้ายเมื่อเสร็จกิจ หรือสายมีเซ็กส์ แต่ไม่ผูกมัดแบบ FWB ซึ่งความสัมพันธ์เหล่านี้ล้วนขึ้นอยู่กับสไตล์แต่ละคนว่าจะชอบแบบไหน

แต่เมื่อความสัมพันธ์แบบไหนที่มีเซ็กส์เป็นส่วนประกอบ ก็คงตามมาด้วย ‘การเลือกวิธีคุมกำเนิด’ ซึ่งจำเป็นต้องหารูปแบบที่เข้ากับไลฟ์สไตล์เรามากที่สุด เพื่อให้การคุมกำเนิดมีประสิทธิภาพ และไม่ส่งผลกระทบกับร่างอีกด้วย 

การเลือกวิธีคุมกำเนิดต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายอย่าง แล้วควร ‘เลือกวิธีคุมกำเนิดยังไงให้เหมาะกับตัวเราล่ะ?’ คลายปมความสงสัยกันได้เลยค่ะ เพราะซิสได้หาคำตอบ พร้อมรายละเอียดการคุมกำเนิดมาให้ทุกคนได้อ่านกันแล้ว!

เลือกวิธีคุมกำเนิดยังไงให้เหมาะกับเรา?

การเลือกวิธีคุมกำเนิดให้เหมาะกับตัวเรานั้น จำเป็นต้องคิดถึงปัจจัยหลายๆ อย่าง เช่น ความชอบส่วนตัว สุขภาพร่างกาย ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิด และผลข้างเคียงจากการคุมกำเนิด เป็นต้น 

โดยวิธีแต่ละวิธีจะมีการใช้งาน คุณสมบัติรวม หรือผลข้างเคียงที่แตกต่างกันไป และในบทความนี้ซิสได้รวมวิธีคุมกำเนิดแต่ละแบบมาให้ได้อ่าน เพื่อให้สาวๆ ได้ตัดสินใจได้มากขึ้นค่ะ

วิธีคุมกำเนิดแต่ละรูปแบบ

1. ยาคุมกำเนิด

ยาคุมกำเนิด

วิธีคุมกำเนิดที่ได้รับความนิยมสูงสุด และใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลกคือ การใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด ซึ่งเป็นยาเม็ดคุมกำเนิดมีประสิทธิภาพสูงมาก ในการป้องกันการตั้งครรภ์ และเกิดผลข้างเคียงน้อย นอกจากนี้ยาเม็ดคุมกำเนิดยังมีประโยชน์ในการลดโอกาสเกิดโรคต่างๆ ทางนรีเวช เช่น การตั้งครรภ์นอกมดลูก ถุงน้ำรังไข่ และการอักเสบในอุ้งเชิงกราน เป็นต้น

ยาเม็ดคุมกำเนิดที่ใช้กันโดยทั่วไป คือ ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม ซึ่งเป็นฮอร์โมนสังเคราะห์เอสโตรเจน และโปรเจสติน โดยฮอร์โมนเหล่านี้มีหน้าที่หลักในการระงับการตกไข่ และทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่เหมาะสมกับการฝังตัวของไข่ที่ถูกผสมแล้ว โดยมีขายอยู่ 2 ชนิด ได้แก่

  • ยาคุมกำเนิดชนิด 21 เม็ด โดยใน 1 แผง จะมีเม็ดฮอร์โมน 21 เม็ด เมื่อกินยาหมดแผงแล้วให้เว้นยา 7 วัน แล้วจึงเริ่มยาแผงใหม่
  • ยาคุมกำเนิดชนิด 24+4 ที่มีเม็ดยาฮอร์โมน 24 เม็ด และเม็ดแป้ง 4 เม็ด ช่วยให้ฮอร์โมนในร่างกายคงที่ขึ้น ลดอาการก่อนมีประจำเดือน (PMS) เช่น อาการปวดท้องประจำเดือน ตัวบวม พุงป่อง คัดตึงหน้าอก สิวเมนส์ อารมณ์แปรปรวน เหวี่ยงวีน หงุดหงิด รวมถึงไม่สบายตัวจากฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงก็จะลดน้อยลง
ยาคุมชนิดฮอร์โมนเดี่ยว (Progestrogen-only pills – POP)
  • ยาคุมชนิดฮอร์โมนเดี่ยว (Progestrogen-only pills – POP) เป็นยาคุมที่ไม่มีฮอร์โมนเอสโตเจนรวมอยู่ด้วย โดยฮอร์โมนนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำนม จึงเหมาะกับคุณแม่ที่ต้องให้นมลูกน้อย นอกจากนี้ยังเหมาะกับคนที่เป็นไมเกรน โรคอ้วน ผู้ที่สูบบุหรี่ ผู้ที่โรคประจำตัว และผู้ที่มีข้อจำกัดในการใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจน สำหรับสูตรนี้มียาคุมฮอร์โมนเดี่ยว 3 สูตร ที่ขายในไทย ก็คือ
    • ยาคุมฮอร์โมนเดี่ยว สูตร Desogestrel 
    • ยาคุมฮอร์โมนเดี่ยว สูตร Lynestrenol 
    • ยาคุมฮอร์โมนเดี่ยวสูตร 24+4 ที่มีตัวยาดรอสไพรีโนน (Drospirenone) 

สาวๆ มาทำความรู้จักยาคุมฮอร์โมนเดี่ยวทั้ง 3 สูตรได้ที่นี่เลยค่ะ ‘รู้ไว้ไม่มีพลาด! ชวนรู้จักยาคุมฮอร์โมนเดี่ยว 3 สูตรที่ขายในไทย

ยาคุมฉุกเฉิน คือ ยาที่มีไว้เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น เพราะเป็นตัวยาที่มีปริมาณฮอร์โมนสูง ไม่ควรกินยาคุมฉุกเฉินบ่อยๆ เพราะอาจเกิดผลเสียต่อร่างกายได้ โดยยาคุมฉุกเฉินจะมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ ก็คือ

  • แบบ 1 เม็ด มีฮอร์โมน Levonorgestrel อยู่ 1.5 มิลลิกรัม กินยาเพียง 1 เม็ด ครั้งเดียว โดยเร็วที่สุด ภายใน 12 ชั่วโมง และไม่เกิน 72 ชั่วโมง ภายหลังการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน โดยแนะนำให้เลือกใช้ยาคุมฉุกเฉินที่มีมาตรฐานการผลิตจากยุโรป มีประสิทธิภาพการป้องกันการตั้งครรภ์สูงถึง 97.4% 
  • แบบ 2 เม็ด มีฮอร์โมน Levonorgestrel อยู่ 0.75 มิลลิกรัม 2 เม็ด กินยาเม็ดแรกภายใน 12 ชั่วโมง และไม่เกิน 72 ชั่วโมง หลังจากมีเพศสัมพันธ์ และอีก 12 ชั่วโมงจึงกินยาเม็ดที่ 2

อ่านเพิ่มเกี่ยวกับ.. กินยาคุมตัวไหนดี? เลือกยังไงให้เหมาะกับตัวเอง

2. ถุงยางอนามัย

ถุงยางอนามัย

อีกวิธีคุมกำเนิดที่เป็นที่นิยมมากพอสมควร เพราะหาซื้อได้ง่าย และมีทั้งถุงยางแบบของผู้ชาย และถุงยางแบบของผู้หญิง มีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์สูง และป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ได้อีกด้วย

3. ห่วงอนามัย

ห่วงอนามัย

ห่วงอนามัยคุมกำเนิด อุปกรณ์คุมกำเนิดขนาดเล็กที่ใส่เข้าไปในโพรงมดลูกเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ โดยวิธีคุมกำเนิดนี้ไม่สามารถจะทำเองได้ เพราะควรที่จะให้แพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ เป็นคนใส่ห่วงอนามัยให้ หรือแม้กระทั่งเอาห่วงออกก็ตามนี้ 

  • ห่วงคุมกำเนิดจะไปกระตุ้นให้มูกบริเวณปากมดลูกหนาตัว เพื่อป้องกันการเคลื่อนตัวของอสุจิ จึงทำให้มีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์สูง
  • อาจจะมีผลข้างเคียง เช่น เลือดออกผิดปกติ ปวดท้อง เป็นต้น

4. การทำหมัน

การทำหมัน
  • เป็นวิธีคุมกำเนิดแบบถาวร
  • เหมาะกับคนที่ตัดสินใจแล้วว่าไม่อยากมีลูกอีก
  • เป็นการผ่าตัด อาจจะมีความเสี่ยง

แต่ทั้งนี้วิธีการคุมกำเนิดเหล่านี้อาจส่งผลข้างเคียงให้กับร่างกายของเราได้ ทางที่ดีควรจะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนเสมอนะคะ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลเสียกับสุขภาพของสาวๆ ทุกคนนั่นเอง

และหากสาวๆ คนไหนยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับวิธีคุมกำเนิด ก็สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านฮอร์โมนและการคุมกำเนิดได้ที่.. ‘PHARMASIS’ ร้านขายยาที่เข้าใจผู้หญิง ตามร้านขายยาที่อยู่ใกล้บ้านของทุกคนได้เลยค่ะ 

ค้นหาร้านขายยาที่เข้าใจผู้หญิงใกล้บ้านได้ตามลิงก์นี้เลยนะคะ คลิก

Scroll to Top