เคยเป็นกันไหมคะ…รู้สึกว่าตัวเองบวมมากขึ้นทั้งที่เราก็ยังไม่ได้ทำอะไรเลย ออกกำลังกายทุกวัน คุมอาหารการกินอย่างดี ตี้ชาบู กับหมูกระทะก็ไม่ได้แตะเลยแม้แต่น้ำจิ้ม แล้วทำไมเราถึงตัวบวมกันนะ?
บางทีที่เราตัวบวมออกมาเฉยๆ อาจไม่ใช่เพราะเรื่องอาหารการกินหรอกนะ อาจเป็นเพราะยาคุมทำให้อ้วนก็ได้!! เอ้า! จริงหรอคะเนี้ย? แล้วยาคุมกินแล้วไม่อ้วนคือแบบไหน? โจทย์ปัญหายาวเหยียดขนาดนี้ ซิสคงต้องไม่รอช้าแล้วค่ะ ไปหาคำตอบกันได้ในบทความนี้เลย…
ภาวะบวมน้ำเกิดจากอะไร?
ภาวะที่ร่างกายมีการสะสมของเหลวมากกว่าปกติ ซึ่งปกติแล้วร่างกายจะสามารถรักษาสมดุลของน้ำในร่างกายได้เอง แต่ถ้าเกิดความผิดปกติขึ้น ก็จะทำให้เกิดอาการบวมน้ำได้นั่นเอง โดยมีสาเหตุหลายอย่าง เช่น
สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการบวมน้ำ
- กินอาหารที่มีโซเดียมสูง เช่น อาหารหมักดอง
- ดื่มแอลกอฮอล์
- เป็นโรคไต หรือไตทำงานผิดปกติ
- การใช้ยาบางชนิด เช่น ยากันชัก หรือยาฆ่าเชื้อรา
- การมีประจำเดือน ก็สามารถทำให้มีอาการบวมน้ำได้ เพราะเป็นช่วงที่ฮอร์โมนไม่คงมากที่สุด
- ฮอร์โมนในร่างกายไม่สมดุล หรือมีฮอร์โมนเอสโตรเจนเยอะเกินไป
ในส่วนของอาหารที่มีโซเดียมสูงน่าจะเป็นปัจจัยอันดับต้น ๆ เลย ! ใครอยากอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาหารที่ทำให้ตัวบวม สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยค่ะ ‘5 อาหารที่กินแล้วทำให้หน้าบวมตอนเช้า’
ดูยังไงว่าเราบวมน้ำ?
ซึ่งวิธีการเช็คอาการบวมน้ำง่ายๆ โดยการลองใช้นิ้วกดลงบริเวณที่หน้าแข้ง หากผิวบริเวณที่บวมบุ๋มลง ก็สามารถที่จะบอกอาการบวมน้ำได้ตามระดับที่ถูกกด
หรืออ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ‘วิธีเช็คอาการบวมน้ำ อย่างละเอียด
ยาคุมทำให้อ้วนหรือตัวบวมได้จริงไหม?
ยาคุมกำเนิดบางชนิดทำให้ตัวบวมได้จริงค่ะ เพราะยาคุมกำเนิดบางประเภทจะมีผลข้างเคียง ที่ทำให้เมื่อกินยาคุมกำเนิดเข้าไป ส่งผลให้ไปกระตุ้นการทำงานของฮอร์โมนในร่างกายได้ และถ้าเกิดมีการเลือกยาคุมที่ไม่เหมาะกับตัวเอง ก็อาจทำให้สาวๆ มีอาการตัวบวมได้นั่นเองค่ะ
ซึ่งโดยส่วนใหญ่ยาคุมกำเนิดที่อาจทำให้มีอาการตัวบวมได้ จะเป็นยาคุมที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูง โดยมีปริมาณ เอทินิลเอสทราไดออล หรือ EE ตั้งแต่ 0.035 mg ขึ้นไป ซึ่งสาวๆ สามารถพลิกดูได้ที่หลังกล่อง หรือบนแผงยาคุมที่ตนเองกินอยู่ได้เลย
ยาคุมที่กินแล้วไม่อ้วนหรือบวมน้ำ
ต้องเป็นยาคุมที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำ หรือมีปริมาณ เอทินิลเอสทราไดออลหรือ EE ไม่เกิน 0.03 mg และที่สำคัญต้องมีตัวยา “ดรอสไพรีโนน” ซึ่งจะช่วยต้านการบวมน้ำ จึงทำให้เกิดอาการบวมน้ำน้อยกว่า ไม่ทำให้อ้วนขึ้น ไม่น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น อีกด้วย
ซึ่งการเลือกใช้ยาคุมนั้น ควรจะเลือกให้เหมาะกับตัวเอง เพื่อป้องกันผลข้างเคียงของยาคุมที่เราเลือก ทางที่ดีสาวๆ ทุกคนควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อการหายาคุมที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคลมากที่สุดค่ะ
อ่านข้อมูล ‘ยาคุมที่ใช่! ‘เลือกยาคุมแบบไหน’ ให้เหมาะกับเรา?’ เพิ่มเติมได้ที่บทความนี้
สรุปง่ายๆ นะคะว่ายาคุมเองก็สามารถที่จะทำให้ร่างกายของสาวๆบวมน้ำได้ หากเลือกยาคุมที่ไม่เหมาะกับตัวเรา แต่โดยส่วนใหญ่อาการเหล่านี้ก็จะหายไปหลังจากที่กินยาคุมกำเนิดไปแล้ว 1-3 เดือนค่ะ แต่เพื่อให้ยาคุมได้ออกฤทธิ์ตามประสิทธิภาพของยาได้เต็มที่ ควรเลือกยาคุมที่เหมาะสมกับตัวเรานะคะ
และหากสาว ๆ คนไหนยังมีข้อสงสัย ก็สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านฮอร์โมนและการคุมกำเนิดได้ที่.. ‘PHARMASIS’ ร้านขายยาที่เข้าใจผู้หญิง ตามร้านขายยาที่อยู่ใกล้บ้านของทุกคนได้เลยค่ะ
ค้นหาร้านขายยาที่เข้าใจผู้หญิงใกล้บ้านได้ตามลิงก์นี้เลยนะคะ คลิก
