สิว สิว สิว! ปัญหาสิวกวนใจที่แก้ยังไงก็แก้ไม่ตก โดยเฉพาะวันนั้นของเดือนมาถึง สิวก็พร้อมใจผุดขึ้นมาสูดอากาศกันอย่างเพลิดเพลิน บางคนก็เปลี่ยนครีมบำรุงผิว หรือไม่ก็ทายาแต้มสิวนับครั้งไม่ถ้วน แต่สิวก็ไม่หายไปไหน แล้วมีทางไหนอีกบ้างนะ? ที่จะแก้ปัญหาสิวเหล่านี้ได้สักที
หลายคนอาจเคยได้ยินมาว่ายาคุมกำเนิดสามารถรักษาสิวได้… แต่คำพูดนี้จริง หรือแท้แค่ไหน? และสาวๆ สามารถใช้วิธีนี้ในการแก้ไขปัญหาสิวที่เกิดขึ้นได้รึเปล่า? มาค่ะสาวๆ ทุกคน ซิสจะพาไปหาคำตอบกันเลยค่ะ
การกินยาคุมกำเนิดนั้นสามารถเป็นทางเลือกอีกในการรักษาปัญหาสิวได้ โดยต้องมีการศึกษาข้อมูลของตัวยาคุมแต่ละประเภท หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนที่เลือกใช้ยาคุมกำเนิดค่ะ เพราะยาคุมแต่ละประเภทจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันอยู่มาก ไม่ว่าจะฮอร์โมนในตัวยา ผลข้างเคียง หรือวิธีการกินยาเองก็ตาม
ประเภทของยาคุม
ยาคุมกำเนิดในท้องตลาด จะแบ่งเป็น 3 แบบ ซึ่งจะมีความแตกต่างกัน ดังนี้
1.ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว (Progestrogen-only pills – POP)
เป็นยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดที่ปราศจากฮอร์โมนเอสโตเจน มีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเพียงอย่างเดียว มี 28 เม็ดในแผงช่วยลดผลข้างเคียงที่เกิดจากฮอร์โมนเอสโตรเจน และไม่ส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำนมในตัวคุณแม่ จึงเหมาะสำหรับคุณแม่ที่ต้องให้นมลูก หรือผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคต่างๆ รวมถึงผู้ที่มีข้อห้ามในการใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจน ก็สามารถใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนเดี่ยวได้ค่ะ ซึ่งปัจจุบันมียาคุมชนิดฮอร์โมนเดี่ยวสูตรใหม่ที่มีตัวยาดรอสไพรีโนน (Drospirenone) และเป็นแบบ 24+4 เม็ด ซึ่งจะมีเม็ดยาฮอร์โมน 24 เม็ด และเม็ดแป้ง 4 เม็ด ที่ลืมกินได้นานถึง 24 ชม. ถือว่าเป็นจุดเด่นที่ต่างจากยาคุมฮอร์โมนเดี่ยวสูตรเดิมเลย
2.ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม (Combined Oral Contraceptive – COC)
มีฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสโตรเจน เป็นยาคุมที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ตัวยาจะมีทั้งแบบ 21 เม็ด และ 28 เม็ด โดยยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม สูตร 24+4 ช่วยลดอาการ PMS และ PMDD ซึ่งจะเกิดช่วงก่อนมีประจำเดือน และอาการไม่พึงประสงค์อื่นๆ ช่วงมีประจำเดือน
3.ยาคุมฉุกเฉิน
ใช้ในกรณีที่มีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน ควรกินภายใน 12 ชั่วโมง และไม่เกิน 72 ชั่วโมง ซึ่งซิสขอแนะนำให้สาวใช้ยาคุมฉุกเฉินแบบชนิด 1 เม็ด เนื่องจากให้ความสะดวกกว่า ไม่ต้องกลัวลืมกินเม็ดที่ 2 อีกทั้งผลข้างเคียงยังไม่ต่างจากยาคุมฉุกเฉินแบบชนิด 2 เม็ด
ยาคุมตัวไหนรักษาสิวได้?
สำหรับยาคุมที่ช่วยรักษาสิวได้ ซิสขอแนะนำเป็น ‘ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม’ นะคะ แต่ไม่ใช่ทุกตัวที่จะใช้รักษาสิวได้นะคะ โดยแนะนำให้ใช้ยาคุมสูตรนี้
ยาคุมฮอร์โมนรวมที่มีตัวยา “ดรอสไพริโนน (Drospirenone)” ซึ่งตัวยาดรอสไพรีโนน นอกจากจะมีฤทธิ์ต้านฮอร์โมนเพศชาย ที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิวแล้ว ตัวยานี้ยังมีฤทธิ์ต้านการบวมน้ำ ไม่ทำให้อ้วน ตัวไม่บวม น้ำหนักไม่เพิ่มขึ้น ดังนั้นยาคุมที่มีตัวยาดรอสไพรีโนนจึงช่วยรักษาสิวได้โดยไม่ทำให้อ้วนขึ้นนั่นเอง
แต่การกินยาคุมกำเนิดเพื่อช่วยรักษาสิวยังมีข้อยกเว้น หรือห้ามกินยาคุมฮอร์โมนรวมในบางบุคคล เพราะอาจทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ และอาการที่ไม่พึงประสงค์ได้
ผู้ที่ห้ามกินยาคุมกำเนิด
- ผู้ที่ตั้งครรภ์
- ผู้ป่วยโรคตับ หรือตับทำงานผิดปกติ
- ผู้ที่มีประวัติมีเนื้องอกที่ตับ มะเร็งเต้านม หรือมะเร็งอวัยวะสืบพันธุ์
นอกจากจะช่วยคุมกำเนิดแล้ว ยาคุมกำเนิดบางสูตรเองก็ยังมีส่วนในการช่วยสาวๆ ที่มีปัญหาเกี่ยวกับฮอร์โมน และภาวะต่างๆ ในร่างกายอีกด้วย การเลือกยาคุมกำเนิดให้เหมาะกับตัวเองจึงเป็นที่เรื่องสำคัญ และควรทำความเข้าใจไว้นะคะ
หากสาวๆ ท่านไหนยังมีข้อสงสัย หรืออยากได้คำแนะนำในด้านการเลือกใช้ยาคุมกำเนิด สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่.. ‘PHARMASIS’ ร้านขายยาที่เข้าใจผู้หญิง ตามร้านขายยาที่อยู่ใกล้บ้านของทุกคนได้เลยค่ะ
ค้นหาร้านขายยาที่เข้าใจผู้หญิงใกล้บ้านได้ตามลิงก์นี้เลยนะคะ คลิก