ยาเลื่อนประจำเดือน เป็นทางออกของสาวๆ ที่ไม่อยากให้การมีประจำเดือนมาเป็นเรื่องกวนใจในการทำกิจกรรมต่างๆ หลายครั้งที่ต้องเลื่อนแผนเที่ยว ขยับแล้วขยับอีกก็ไม่ลงตัว การหันไป “เลื่อนประจำเดือน” จึงเป็นทางออกที่ดีกว่า
ยาเลื่อนประจำเดือนทำงานอย่างไร?
ยาเลื่อนประจำเดือน เป็นยาที่มีฮอร์โมนโปรเจสโตเจน (Progestogen) ที่จะทำให้ผนังมดลูกไม่หลุดออกมา โดยปกติแล้วผนังมดลูกจะหลุดลอกและไหลออกมาเป็นเลือดประจำเดือน
ก่อนจะเริ่มกินยาเลื่อนประจำเดือน สาวๆ ควรรู้วิธีการใช้ยาและข้อควรรู้ ดังนี้
- ควรเริ่มกินยาอย่างน้อย 3 วัน ก่อนที่ประจำเดือนจะมา
- ให้กินครั้งละ 1 เม็ด หรือวันละ 3 ครั้ง (เช้า กลางวัน เย็น)
- การกินยาเลื่อนประจำเดือนอาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ได้ เช่น ปวดหัว คลื่นไส้ คัดตึงหน้าอก รอบเดือนมาไม่สม่ำเสมอ
รู้ไหม? ยาคุมสามารถเลื่อนประจำเดือนได้นะ
แต่สำหรับสาวๆ ที่กินยาคุมกำเนิดเป็นประจำ รู้ไหมคะว่ายาคุมที่กินอยู่นี้สามารถกินเพื่อเลื่อนประจำเดือนได้
โดยให้สังเกตและปฏิบัติดังนี้
- หากยาคุมที่กินอยู่เป็นแบบ 21 เม็ด
ให้กินยาคุมกำเนิดตัวเดิมต่อไป หากหมดแผงก็เริ่มกินแผงใหม่ได้ต่อเนื่อง ไปจนกว่าต้องการให้ประจำเดือนมาจึงหยุดกินยาคุมนั้น
- หากยาคุมที่กินอยู่เป็นแบบ 28 เม็ด (ที่มีตัวยาฮอร์โมน 24 เม็ด และเม็ดแป้ง 4 เม็ด)
ให้ทิ้งเม็ดแป้ง 4 เม็ด แล้วเริ่มกินยาคุมแผงใหม่ต่อเนื่องจนกว่าต้องการให้ประจำเดือนมาจึงหยุดกินยาคุมนั้นเช่นเดียวกัน
เห็นทั้งข้อดี ข้อเสียของยาเลื่อนประจำเดือน ก็ต้องระมัดระวังในการใช้ ใช้บ่อยมากเกินไป อาจทำให้ระบบการมีประจำเดือนเกิดความสับสน และต้องใช้เวลาเพื่อปรับสภาพร่างกายสู่ภาวะปกติ ดังนั้นจึงควรใช้ยาเพื่อเลื่อนประจำเดือนเท่าที่จำเป็นเท่านั้นนะคะ
