‘ฮอร์โมน’ สิ่งที่เราควรให้ความสำคัญมากกกก เรียกได้ว่าเป็นอีกส่วนสำคัญของร่างกายกันเลยทีเดียว เพราะฮอร์โมนเปรียบเสมือนเป็นสื่อกลางที่ค่อยส่งสารของเซลล์อวัยวะแต่ละเซลล์ ในร่างกายให้ทำงานประสานกันอยู่เสมอ และยังมีผลต่อการทำงานของร่างกาย และส่งผลกับความรู้สึกของเราได้อีกด้วย
แต่ทุกคนเคยเป็นกันไหมคะ? อยู่ๆ ก็อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย สิวขึ้นเยอะ ผิวพรรณดูโทรม นอนไม่หลับ หรือแม้แต่ประจำเดือนมาไม่ปกติ อาการเหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณเตือนว่า เราอาจมีฮอร์โมนในร่างกายไม่สมดุลอยู่!
โดยฮอร์โมนหลักๆ ของผู้หญิงจะมีอยู่ 2 ชนิดค่ะ นั้นก็คือ เอสโตรเจน และ โปรเจสเตอโรน
- เอสโตรเจน ฮอร์โมนเพศหญิง ที่ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง มีรอบเดือน และมีส่วนช่วยในการเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับการตั้งครรภ์
- โปรเจสเตอโรน ทำหน้าที่ดูแลระบบสืบพันธุ์ ช่วยให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ
ปกติแล้ว ร่างกายของผู้หญิงจะผลิตฮอร์โมนทั้ง 2 ชนิดนี้ในปริมาณที่สมดุล แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่อยู่ๆ ฮอร์โมนเอสโตรเจน หลั่งมากเกินไป หรือมีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน หลั่งน้อยลง ️รับรองได้เลยค่ะว่าสาวๆ ต้องหัวหมุน และวุ่นวาย แน่นอนค่ะ
เมื่อมีภาวะฮอร์โมนไม่สมดุล เราจะรู้ได้ยังไง? แน่นอนเลยค่ะ ว่าซิสได้หาคำตอบมาให้แล้ว! ไปเช็ก 6 สัญญาณเตือน ฮอร์โมนไม่สมดุล จะมีอะไรบ้างไปอ่านกันเลยค่ะ…
6 สัญญาณเตือน ฮอร์โมนไม่สมดุล
ฮอร์โมน เปรียบเสมือนสารเคมีสื่อสารที่ควบคุมการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกายให้เป็นปกติ เมื่อฮอร์โมนไม่สมดุล ย่อมส่งผลกระทบต่อสุขภาพทั้งทางร่างกาย และอารมณ์
1. รอบเดือนผิดปกติ
ปกติแล้วผู้หญิงจะมีรอบเดือนทุก ๆ 21-35 วัน แต่ถ้าประจำเดือนมาบ่อยเกินไป หรือประจำเดือนมาขาด อาจหมายความว่าเรามีฮอร์โมนเอสโตรเจน และฮอร์โมนโปรเจสโตรโรน ที่เป็นตัวควบคุมการมาของประจำเดือนมาก หรือน้อยเกินไป
นอกจากนั้นตัวช่วยสำหรับสาวๆ คือ การกินยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม 24+4 จะทำให้ประจำเดือนมาสม่ำเสมอขึ้น จะช่วยให้อาการปวดประจำเดือนลดลงอีกด้วยนะคะ
2. นอนไม่หลับ หรือหลับยาก
นอกจากฮอร์โมนเมลาโทนินที่มีส่วนช่วยให้นอนหลับได้สบายขึ้นแล้ว ยังมีฮอร์โมนโปรเจสโตรโรน ที่ผลิตออกมาจากรังไข่คุณผู้หญิงที่ช่วยให้คุณผู้หญิงนอนหลับได้สบายมากขึ้น แต่หากฮอร์โมนหนึ่งในสองชนิดนี้มีปริมาณต่ำกว่าปกติ ก็จะส่งผลต่อการนอนหลับได้เช่นกัน
รวมไปถึงฮอร์โมนเอสโตรเจน ถ้ามีฮอร์โมนชนิดนี้ต่ำกว่าปกติ ก็อาจทำให้คุณผู้หญิงรู้สึกร้อนวูบวาบ หนาวๆ ร้อนๆ หรือมีเหงื่อออกตอนกลางคืน ทำให้รบกวนการนอนหลับได้เหมือนกัน
3. สิวขึ้นมากผิดปกติ
สิวฮอร์โมนที่ขึ้นเป็นเม็ดๆ บนใบหน้าก่อนมีประจำเดือนถือได้ว่าเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้มีเป็นเรื่องที่ต้องกังวลแต่อย่างใด แต่หากมีสิวขึ้นเป็นประจำไม่หายขาดเสียที อาจมีปัญหาที่ฮอร์โมนแอนโดรเจน ที่หากมีปัญหาจะส่งผลให้ต่อมไร้ท่อ ต่อมไขมันที่เซลล์ของผิวหนัง และรูขุมขนทำงานผิดปกติ จึงทำให้เกิดการอุดตันจนกลายเป็นสิวได้
4. มีอาการหลงๆ ลืมๆ
ผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่าหากฮอร์โมนเอสโตรเจนมีความผิดปกติ จะส่งผลกระทบต่อการควบคุมในสมอง และสารด้านสื่อประสาท ซึ่งมีผลต่อสมาธิ และความจำด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงใกล้หมดประจำเดือน จะมีอาการหลายอย่างที่เชื่อมโยงกับระดับฮอร์โมนและต่อมไทรอยด์ ทำให้การทำงานของสมองอาจไม่มีประสิทธิภาพเต็มที่เหมือนช่วงเวลาอื่น ๆ
5. เครียด อารมณ์แปรปรวน
ฮอร์โมนแปรปรวน คงเข้าใจว่ามีอาการเป็นอย่างไร นอกจากอารมณ์หงุดหงิดโมโหง่ายแล้ว ฮอร์โมนเอสโตรเจนยังเป็นกุญแจสำคัญที่ส่งผลต่อสมองและอารมณ์อีกด้วย
6. ช่องคลอดแห้ง
โดยปกติแล้วหากสาวๆ มีช่องคลอดแห้ง ไม่มีน้ำหล่อลื่นระหว่างมีเพศสัมพันธ์บ้างเป็นบางครั้งยังไม่ถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติ แต่หากเกิดขึ้นบ่อยครั้งเกินไป อาจเป็นเพราะฮอร์โมนเอสโตรเจนมีปริมาณต่ำ ทำให้ช่องคลอดขาดความสมดุลในการทำงานตามไปด้วย
วิธีปรับสมดุลฮอร์โมน
สำหรับอาการต่าง ๆ ข้างต้นที่สาว ๆ ต้องเผชิญ ไม่ต้องกังวลไปนะคะ เพราะวันนี้ซิสไม่ได้แค่มาบอกถึงอาการต่าง ๆ ของฮอร์โมนไม่สมดุล แต่ซิสยังมาพร้อมวิธีปรับสมดุลฮอร์โมนด้วยค่ะ
1.กินอาหารที่มีประโยชน์
โดยเน้นไปที่ผักผลไม้ ธัญพืช โปรตีน และไขมันดี หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง คาเฟอีน และแอลกอฮอล์ เพราะอาหารเหล่านี้จะไปกระตุ้นให้ฮอร์โมนเกิดความผิดปกติ
2.นอนหลับให้เพียงพอ
การนอนหลับให้เพียงต่อความต้องการของร่างกาย จะช่วยให้ระบบฮอร์โมนต่าง ๆ ทำงานได้ดีมากขึ้น และยังช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูตัวเองจากความเหนื่อยล้า ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ช่วยให้ระบบต่าง ๆ ของร่างกายทำงานได้อย่างเป็นปกติ
3.ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง จะช่วยเพิ่มระดับช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนให้ร่างกายได้
4.กินยาคุมปรับฮอร์โมน
อีกหนึ่งทางเลือกปรับสมดุลฮอร์โมนที่ซิสขอแนะนำเป็นสูตรฮอร์โมนต่ำ ชนิด 24 + 4 เม็ด ที่เป็นเม็ดยา 24 เม็ด และเป็นเม็ดแป้ง 4 เม็ด ยาคุมสูตรนี้จะช่วยลดแปรปรวน ทำให้ฮอร์โมนคงที่ได้ดีกว่า
อีกทั้งฮอร์โมนโปรเจสโตรเจนอย่าง ดรอสไพรีโนน (Drospirenone) และเจสโตดีน (Gestodene) ที่มีอยู่ในยาคุมกำเนิดก็จะช่วยรักษาสิว ลดผิวมัน ไม่ทำให้อ้วนหรือน้ำหนักเพิ่ม และยังช่วยลดอาการก่อนมีประจำเดือน (PMS) ได้ด้วย
หากสาว ๆ คนไหนยังมีข้อสงสัย ก็สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านฮอร์โมนและการคุมกำเนิดได้ที่.. ‘PHARMASIS’ ร้านขายยาที่เข้าใจผู้หญิง ตามร้านขายยาที่อยู่ใกล้บ้านของทุกคนได้เลยค่ะ
ค้นหาร้านขายยาที่เข้าใจผู้หญิงใกล้บ้านได้ตามลิงก์นี้เลยนะคะ คลิก
