ผู้ชาย และผู้หญิงมอง ‘ความรัก’ แตกต่างแต่เหมือนกัน! อ่านดูแล้วก็รู้สึกย้อนแย้ง เหมือนกับเพลงของพี่เนมเก็ตสึโนวาเลยนะคะ (ก็ใช่น่ะสิ!) แล้วทำไมต้องแตกต่างกันล่ะ แล้วถ้าคนสองคนแตกต่างกันมาก แล้วจะรักกันได้ไหม?
การที่ทุกคนมีมุมมอง และความคิดที่แตกต่างกันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วค่ะ แต่เมื่อเป็นความสัมพันธ์แบบ ‘คู่รัก’ การที่สองคนที่มีมุมมอง และความคิดไม่เหมือนกันเลย ต้องมาใช้ชีวิตร่วมกันหรือทำอะไรหลายอย่างด้วยกัน เพราะฉะนั้น ‘รักกันคงยังไม่พอ’ เพราะถ้าทั้งสองไม่เข้าใจความแตกต่างของกันและกัน ในท้ายที่สุดความสัมพันธ์นี้คงไปต่อไม่ได้ และต้องแยกย้ายกันไปตามทาง
เราจึงต้องหาจุดกึ่งกลางของความสัมพันธ์นี้ ไม่ว่าจะเป็นความคิดหรือการกระทำก็ดี ให้ความแตกต่างของทั้งสองมาบรรจบกันค่ะหรือเรียกง่าย ๆ ว่า ความเข้าใจในกันและกัน และการปรับจูนเข้าหากันนั่นเอง และในบทความนี้ซิสจะมาพาสาว ๆ ทุกคนไปทำความเข้าใจความแตกต่างของ ‘ผู้ชาย’ และ ‘ผู้หญิง’ กันค่ะ แต่ก่อนอื่นเลย ซิสขอพามารู้จักทฤษฎีที่น่าสนใจเกี่ยวกับความรักก่อนนะคะ ไปกันต่อ…
ทฤษฎีสามเหลี่ยมแห่งความรัก (Triangular Theory of Love)
ก่อนอื่น เรามาทำความเข้าใจกับความรักในเชิงทฤษฎีกันก่อนนะคะ โดยอาจารย์ภาควิชาจิตวิทยาประจำมหาวิทยาลัยเยล ชื่อว่าโรเบิร์ต สเติร์นเบิร์ก (Robert Sternberg) ได้อธิบายองค์ประกอบของความสัมพันธ์ที่ก่อให้เกิดความรักไว้ 3 ประการคือ
รูปภาพจาก Triangular theory of love – ทฤษฎีสามเหลี่ยมของความรัก โดย คณะจิตวิทยาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- ความใกล้ชิด (Intimacy) เป็นองค์ประกอบด้านอารมณ์ซึ่งจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตามระยะเวลาของความสัมพันธ์ โดยจะทำให้เกิดความเข้าใจ ความเอื้ออาทรต่อกันมากขึ้น
- ความหลงใหล (Passion) เป็นองค์ประกอบด้านแรงจูง ซึ่งเกิดจากแรงขับภายใน เรียกว่า แรงดึงดูดทางเพศ
- ความผูกพัน (Commitment) เป็นองค์ประกอบด้านความคิดที่มีการผูกมัดหรือเรียกได้ว่าเป็นการตัดสินใจที่จะมีพันธะซึ่งกันและกันในระยะยาว ซึ่งความผูกพันนี้จะแปรเปลี่ยนตามระยะเวลา
มุมมองต่อความรักที่แตกต่างของ ผู้ชาย และ ผู้หญิง
1.จุดเริ่มต้นของความรัก
ผู้หญิงส่วนใหญ่มักมองความรักที่จะเข้ามาหรือที่มีอยู่เป็นรักแท้ รักเดียว รักสุดท้าย จึงต้องการความมั่นใจ เลยใช้เวลาที่นานก่อนที่จะตัดสินใจนั่นเอง ในขณะที่ผู้ชายนั้นมักเชื่อมั่นในรักแรกพบ เพราะผู้ชายจะประทับใจในตัวสาว ๆ ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบเจอเสมอ
2.การแสดงออกต่อคนรักในช่วงแรก
ในช่วงแรกของความรักสาว ๆ นั้นจะค่อยเป็นค่อยไปในความรัก และจะมีความใส่ใจในตัวคู่รักระดับหนึ่ง ต่างจากหนุ่ม ๆ ที่จะมีความรักและความใส่ใจเยอะมากในช่วงแรก แต่จะค่อย ๆ ลดลงไปอยู่ในระดับที่ไม่หวือหวาจนเกินไป บางทีก็ดูไม่ออกว่ารักเราจริง ๆ รึเปล่า
3.ความรู้สึกรักต่ออีกฝ่าย
สำหรับสาว ๆ การรู้สึกรักใครสักคนนั้นรู้สึกได้เพียงคนเดียว และจะมอบความรักให้กับแฟนได้มากมาย ในทางกลับกันหนุ่ม ๆ นั้นอาจรู้สึกตกหลุมรักได้มากกว่าหนึ่งคน และจะแสดงความรักกับแฟนได้ไม่มากนัก (แค่ผู้ชายบางคนเท่านั้นนะคะ)
4.SEX
หลายคนอาจมองว่า Sex กับความรักเป็นคนละเรื่องกัน ซึ่งหนุ่ม ๆ ส่วนใหญ่จะคิดแบบนี้ มองว่าการมีเซ็กซ์นั้นไม่เกี่ยวกับความรัก
ส่วนสาว ๆ นั้นมองว่ามันคือเรื่องเดียวกัน! จริงอยู่ที่ว่าเซ็กซ์เป็นแค่ความสัมพันธ์ทางกาย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะเอาใจลงไปเล่นด้วยไม่ได้ ในมุมของสาว ๆ เองก็แค่อยากให้แฟนหนุ่มสนใจแค่ตัวเราแค่นั้นเอง
เพราะการมี Sex ค่อนข้างมีผลกระทบกับหลายอย่างตั้งแต่การสานสัมพันธ์ให้สนิทกันมากขึ้น และการวางแผนครอบครัวภายในอนาคต ซึ่งสำหรับสาว ๆ บางคนอาจยังไม่พร้อมที่จะมีเจ้าตัวเล็ก ก็ใช้วิธีคุมกำเนิด เช่น กินยาคุมกำเนิด เป็นต้น
มี Sex อย่าปลอดภัยต้องทำยังไงบ้าง ‘มีเซ็กส์อย่างปลอดภัย..รวมวิธีคุมกำเนิด ที่คู่รักไม่ควรพลาด’
5.การตัดสินใจต่อความรัก
สาว ๆ จะต้องการเวลาเพื่อตัดสินใจในเรื่องของความรักมากกว่าผู้ชาย เนื่องจากต้องคิดให้รอบคอบ และเพื่อความแน่ใจว่าครั้งนี้จะไม่ผิดหวังที่ตัดสินใจเลือกผู้ชายคนนี้ ส่วนหนุ่ม ๆ ก็จะมีการตัดสินใจเรื่องนี้ที่สั้นกว่า เพราะถ้าเขาตัดสินใจจีบไปแล้วในตอนแรกก็มั่นใจในระดับหนึ่งว่าผู้หญิงคนนี้แหละ คือคนที่ใช่
6.เมื่อถึงคราวต้องอกหัก
มีพบก็ต้องมีจาก หากเป็นผู้หญิงแล้วคงต้องใช้เวลานานพอสมควรกับการทำใจ และมูฟออน เพราะคาดหวังในความสัมพันธ์ให้ยั่งยืน แต่เมื่อจมกับความเศร้า เสียใจจนพอแล้ว สาว ๆ ทุกคนก็จะหันมารักตัวเอง และเดินหน้าต่อไป
ส่วนฝ่ายชายอาจเป็นเรื่องตลกร้าย เพราะสามารถมูฟออนได้อย่างรวดเร็วในเพียงไม่กี่วัน แต่ก็ไม่เสมอไป เพราะสำหรับหนุ่ม ๆ บางคนก็อาจจะกลับมาทบทวนกับความสัมพันธ์ที่ตนเคยมี และมาเสียใจทีหลัง
สุดท้ายนี้อยากให้ทุกคนเข้าใจกันก่อนนะคะ ว่านี่เป็นเพียงมุมมองภาพรวมเพียงเท่านั้น ไม่ได้หมายถึงชายหญิงทุกคนจะเป็นแบบที่เรานำเสนอไป แต่ละคนก็มีมุมมองที่ต่างกัน การทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน หรือการปรับจูนเข้าหากัน จึงเป็นสิ่งที่จะช่วยให้ความสัมพันธ์ของความรักนั้นดีขึ้น และแข็งแรงมากขึ้นนั่นเองค่ะ
ซิสขอให้ทุกคนให้มีความรักที่ดี และมีความสุขที่จะได้มีความรักต่อไปนะคะ
และหากสาวๆ คนไหนยังมีข้อสงสัย หรืออยากได้คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเรื่องสุขภาพที่เข้าใจความต่างของผู้หญิง ก็สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่.. ‘PHARMASIS’ ร้านขายยาที่เข้าใจผู้หญิง ตามร้านขายยาที่อยู่ใกล้บ้านของทุกคนได้เลยค่ะ
ค้นหาร้านขายยาที่เข้าใจผู้หญิงใกล้บ้านได้ตามลิงก์นี้เลยนะคะ คลิก!
แหล่งอ้างอิง
บทความ : Triangular theory of love – ทฤษฎีสามเหลี่ยมของความรัก โดย คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย