คำว่า “จบ” พูดเบาๆ ก็เจ็บ และที่เจ็บมากก็เพราะเรายังรักเขาอยู่ หรือว่าคำว่าจบนั้น มาแบบไม่ให้ทันตั้งตัว แต่ไม่ว่าจะแบบไหน ความสัมพันธ์ที่ต้องใช้สองคนร่วมประคองไปด้วยกัน ก็คงจบลงเท่านี้ เพราะไม่สามารถทำได้ด้วยตัวคนเดียว ก็ในเมื่ออีกฝ่ายเลือกที่จะไป
คนที่จากไปอาจไม่ได้รู้สึกอะไร แต่กับคนที่ยังอยู่ที่เดิมไม่ได้ต้องการที่จะจบความสัมพันธ์นี้ กลับเป็นเรื่องที่ทุกข์ทรมาน และยากที่ก้าวผ่านไปได้ ความรู้สึกที่ไม่ทันจะได้ตั้งตัว หรือมึนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น เฝ้าถามตัวเองว่า ‘ฉันผิดอะไร’ หรือ ‘ฉันไม่ดีตรงไหน’ ‘ให้โอกาสฉันได้ไหม’ ไม่ว่าจะเฝ้าถามยังไงก็ไม่ได้คำตอบ สุดท้ายเหลือแค่ความรู้สึกหนักหน่วงหัวใจ ความรู้สึกเจ็บปวดบีบเค้นจากภายใน
สำหรับใครที่ยังมึนงงและสับสนในสถานการณ์แบบนี้ ซิสมีแนวทางเล็กน้อยสำหรับ วิธีมูฟออน จากการที่ถูกทิ้ง หรือถูกบอกเลิกความสัมพันธ์ ให้สาวๆ ที่หลงทาง มีไกด์สำหรับการเดินหน้าต่อไป
1.ยอมรับความจริงให้ได้ และไม่ต้องตั้งคำถามว่า ‘ฉันผิดอะไร’
การที่เขาเลือกที่จะจากเราไป มีมากมายหลายสาเหตุและหมื่นพันเหตุผล แต่ความจริงก็คือ ความสัมพันธ์นี้จบลง และคงไม่กลับไปเป็นเหมือนเก่า ยิ่งเราตั้งคำถามว่า ‘ฉันผิดอะไร’ ‘ฉันทำอะไรไม่ดี’ ก็ไม่ได้ช่วยให้เขากลับมาหาคุณเลย เพราะถ้าเขายังคงรักคุณอยู่ เขาจะไม่มีทางทำให้คุณต้องเจ็บปวด แต่คงจะมาพูดคุยเพื่อหาทางปรับและแก้ไขร่วมกัน ไม่ใช่ทิ้งกันไปอย่างนี้
หากคุณตั้งคำถามกับอีกฝ่าย เขาอาจจะไม่ตอบหรือต่อให้ตอบ ก็เป็นคำตอบที่ “เป็นมุมมองเขาฝ่ายเดียว” คำตอบแบบนี้อาจทำให้คุณรู้สึก ด้อยค่า และเป็นฝ่ายที่ไม่ดีซะเอง ซึ่งความจริงอาจไม่ใช่เลย
ไม่ต้องตั้งคำถามกับตัวเองหรืออีกฝ่าย ไม่ว่าคุณจะสงสัยหรือมีคำถามมากมาย เพราะคำถามเหล่านั้นจะยังไม่ได้คำตอบในตอนนี้ทันทีอย่างแน่นอน ดังนั้นสิ่งแรกที่คุณต้องทำคือ ยอมรับความจริงให้ได้ ว่ามันจบลงแล้วจริงๆ
2.ออกจากพื้นที่เดิมๆ ที่เคยอยู่ด้วยกัน
ความเคยชินมันอันตราย ยิ่งสำหรับคนที่อาศัยอยู่ด้วยกันเป็นเวลานานยิ่งแล้วใหญ่ เพราะจะมองไปทางไหนก็เห็นแต่ภาพเขา ยิ่งกระตุ้นความรู้สึกผูกพันที่เคยอยู่ด้วยกัน เคยทำอะไรร่วมกัน ความเคยชินนี้อาจกัดกินคุณจากภายใน ยิ่งต้องอยู่ในที่ๆ เคยอยู่ด้วยกัน ภาพจำยังคงชัดเจน
การจะหลุดจากกับดักความเคยชินนี้อาจทำได้ยาก แต่การปรับขยับอะไรเล็กน้อย หรือเปลี่ยนจังหวะการใช้ชีวิตสักหน่อย อาจช่วยได้
ถ้าเป็นห้องหรือบ้านที่เคยอยู่ด้วยกัน อาจลองจัดห้องใหม่ เคลียร์ของของเขาออก ถ้าไม่ทิ้งก็ปิดผนึกลงกล่อง จัดเก็บในพื้นที่ๆ ยากต่อการเอาออกมา หรือถ้าจะให้ดีที่สุดคือการย้ายห้องหรือย้ายบ้าน (หากทำได้)
การออกไปท่องเที่ยวเปลี่ยนบรรยากาศ สร้างจังหวะชีวิตใหม่ๆ หรือลองทำอะไรที่ไม่ได้ทำตอนอยู่กับเขาหรือมีเขาอยู่ด้วย การทำแบบนี้คือการปรับจังหวะชีวิตขึ้นใหม่ มันจะช่วยทำให้คุณออกจากพื้นที่ความเคยชินได้
หากทำไม่ได้เพราะมีข้อจำกัดอื่นๆ การตื่นนอนและเข้านอนในเวลาที่ต่างจากเดิม หรือกินอาหารในเวลาที่ไม่เหมือนเดิม ก็สามารถทำให้จังหวะชีวิตของคุณไม่เหมือนเดิมแล้ว
3.หาใครสักคนมารับฟัง
บางทีการได้ระบายออกมาอาจช่วยคุณได้มากกว่าที่คุณคิด การที่คุณมีใครสักคนที่รับฟังในเรื่องที่เจ็บปวด เหมือนกับการยกสิ่งๆ นั้นออกจากตัวในช่วงเวลาหนึ่ง ทำให้คุณมีเวลาที่จะเรียบเรียงความรู้สึกตัวเองอย่างถี่ถ้วน
ไม่ว่าคนๆ นั้นจะเป็นใคร การได้พูดออกมาย่อมดีกว่าคุณที่คิดหมุนวนอยู่ภายใน ทั้งยังได้มองเห็นเรื่องราวและปัญหาจากมุมมองอื่นๆ อีกด้วย
4.ต่อให้ใครไม่รักเรา ยังมีตัวเราที่รักตัวเอง ใจดีกับตัวเองให้มากๆ
ต่อให้คนทั้งโลกจะใจร้ายต่อเรา ยังมีตัวเราเองที่รักตัวเองมากที่สุด สิ่งนี้ไม่ได้สื่อว่าคุณเป็นคนไม่มีค่าเพราะคนอื่นไม่รักคุณ แต่มันสื่อให้เห็นว่า คุณมีค่ามาเกินกว่าที่จะให้คนที่ไม่เห็นคุณค่าในตัวคุณ มาทำให้คุณต้องเจ็บปวดเสียใจ
วลีที่ว่า “รักตัวเองให้ได้ ก่อนรักผู้อื่น” ไม่ใช่เป็นคำที่บอกให้เราเห็นแก่ตัว แต่เป็นคำที่ชี้ให้เราเห็นว่า ก่อนคุณจะรักคนอื่น.. คุณต้องเรียนรู้ที่จะรักคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของคุณให้ได้ก่อน นั่นก็คือตัวคุณเอง อย่าให้คนอื่นมาทำร้ายคนที่สำคัญที่สุดของคุณ
5.เวลาเท่านั้นที่เยียวยาทุกสิ่ง
เวลาเป็นสิ่งพิศวง มันเดินไปข้างหน้าและไม่สามารถย้อนกลับได้เหมือนสายน้ำ คล้ายความรู้สึกคนเราที่ต้องอาศัยเวลาช่วยเจือจางความเจ็บปวด ยิ่งเวลาผ่านไปความรู้สึกนั้นก็ยิ่งเจือจางลง คุณอาจจะลืม หรือไม่รู้สึกอะไรกับมันอีกแล้ว
การให้เวลากับตัวเองจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการก้าวผ่านความรู้สึกเจ็บปวด ให้เวลาที่เดินหน้าไป ได้ทำงานและให้คุณได้ใช้เวลานี้ในการทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดผ่านมุมมองหลากหลาย
คำแนะนำที่ซิสให้ไว้เป็นแค่แนวทางสำหรับคนที่หาวิธีมูฟออนจากแฟนเก่าหรือคนรักเก่า ทั้งนี้ยังต้องอาศัยหลายปัจจัยในการก้าวข้ามช่วงเวลานี้ไป เช่น คนรอบตัว หรือต้องใช้ความมุ่งมั่นและความตั้งใจเป็นอย่างมาก
ถึงแม้ว่าช่วงแรกแห่งการเปลี่ยนแปลงของชีวิตนี้อาจจะเจ็บปวดหรือยากที่จะก้าวผ่าน แต่จงใช้เวลาให้กับตัวเองและคนที่รักเราให้มากขึ้น แล้วมันจะสร้างการเปลี่ยนแปลงทั้งในการใช้ชีวิตและจิตใจ เมื่อถึงวันนั้นคุณจะเป็นคนที่เข้มแข็งและลุกขึ้นมายืนอีกครั้ง ทั้งเพื่อตัวเองและคนที่สำคัญกับคุณจริง ๆ
ซิสเอง ขอเป็นกำลังใจให้สาวๆ ทุกคน ไม่ยอมแพ้กับมรสุมที่ผ่านเข้ามาในชีวิตนะคะ และขอให้ทุกคนรักตัวเองและรักคนที่รักเราให้มากๆ ค่ะ ทุกปัญหาย่อมมีทางออกเสมอ