สาวๆ ชาวออฟฟิศหลายคน อาจจะกำลังประสบกับปัญหานั่งทำงานติดเก้าอี้เป็นเวลานานๆ ทั้งวัน แทบไม่ได้ลุกไปไหน และคงจะต้องเคยปวดหลังกันบ้างนะคะ อาการนั่งนาน เมื่อยตัว และปวดหลังใครๆ ก็เป็นได้ แต่อาการปวดหลังแบบไหนล่ะ ที่เป็นเรื่องปกติ และแบบไหนที่ผิดปกติ ไปดูกันเลยค่ะ
1. กล้ามเนื้อ และเส้นเอ็นอักเสบ
เกิดจากการใช้กล้ามเนื้อส่วนเดิมซ้ำๆ เช่น นั่งในท่าเดิมนานๆ ที่โต๊ะทำงาน เป็นต้น หรือการเล่นกีฬาที่ต้องเอี้ยวตัวเยอะๆ เมื่อใช้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นแล้วจะรู้สึกปวด อาการปวดแบบนี้ เพียงแค่หยุดใช้กล้ามเนื้อส่วนนั้นสักพัก อาการปวดจะดีขึ้น และก็จะบรรเทาและหายได้เองค่ะ
2. ข้อต่ออักเสบ
เกิดจากการใช้ข้อต่อที่เดิมซ้ำๆ เช่น ก้มๆ เงยๆ บิดตัวไปมา อาการคล้ายกล้ามเนื้อ และเส้นเอ็นอักเสบ เพียงแต่เกิดขึ้นบริเวณข้อต่อ เช่น ข้อเท้า หัวเข่า หัวไหล่
อาการปวดแบบนี้ เพียงแค่หยุดใช้บริเวณช่วงข้อต่อที่ปวดสักพัก อาการปวดก็จะดีขึ้นได้เองเช่นกัน
3. หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
อันนี้เริ่มน่าเป็นห่วง อาการปวดหลังจะเกิดขึ้นทันทีขณะที่ก้มยกของ เพราะแบกหรือยกของหนักผิดท่า ต่อมาจะเริ่มปวดร้าวไปที่ขา ปวดมากขึ้นเมื่อเดินและดีขึ้นเมื่อได้นอนพัก ถ้าเส้นประสาทถูกกดทับหรืออักเสบนานๆ อาจทําให้กล้ามเนื้อขาอ่อนแรงหรือชา แบบนี้ต้องรีบพบแพทย์
4. กระดูกสันหลังเสื่อม
อาการปวดแบบนี้มักเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุ เมื่ออายุมากขึ้นข้อต่อกระดูกเสื่อม หมอนรองกระดูกเสื่อมทรุดลงทําให้กระดูกผิดรูปหรือเคลื่อนตัวทํางานผิดปกติ อาจจะกดเส้นประสาททําให้ปวดหลังร้าวไปขาได้ มักมีอาการปวดมากขึ้นถ้าต้องเดินไกลๆ เวลาเดินก้มตัวเล็กน้อยอาจช่วยให้ปวดน้อยลง หากปวดไม่มากสามารถลดอาการปวดได้โดยการนั่งพัก นอนพัก แต่หากปวดมากขนาดที่นั่ง หรือนอนพักแล้วยังไม่ดีขึ้น ก็ควรพบแพทย์ค่ะ
5. เนื้องอกที่กระดูกสันหลัง
เห็นว่าเป็นเนื้องอกปุ๊บ ก็คงรู้ปั๊บว่าไม่ใช่อาการปวดหลังธรรมดาๆ คุณอาจจะมีเนื้องอกที่อาจกินกระดูกสันหลัง ทําให้ปวดกระดูก หรืออาจกดทับเส้นประสาททําให้ปวดร้าวไปที่ขา ขาชา หรืออ่อนแรง มักมีอาการปวดขณะนอน เมื่อยืนและเดินจะดีขึ้น ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์ เพื่อทำการตรวจ และรักษาเป็นระยะๆ
6. ติดเชื้อที่กระดูกสันหลัง
จะเป็นอาการปวดหลัง ที่อาจปวดร้าวไปที่ขาหรือขาอ่อนแรง กระดูกสันหลังอาจโก่งงอ ถ้าเคาะกระดูกจะรู้สึกเจ็บ หากมีอาการปวดแบบนี้รีบไปพบแพทย์ก็จะดี
7. ปวดหลัง และมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย
หากปวดหลังว่าทรมานแล้ว ยังมีอาการเจ็บปวดอื่นๆ ร่วมอีกด้วย เช่น มีอาการชาบริเวณปลายนิ้วมือ นิ้วเท้า มีไข้สูง หนาวสั่น น้ำหนักลด อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ปัสสาวะขุ่น หรือมีสีเหมือนน้ำล้างเนื้อ หรือปวดหลังมากไม่หาย ควรรีบพบแพทย์อย่างเร็วที่สุด
ถ้าสาวๆ คนไหนมีอาการตามที่กล่าวไปข้างต้น อย่านิ่งนอนใจต้องรีบไปพบเเพทย์โดยด่วนนะคะ