เป็นผู้หญิงแท้จริงแสนลำบาก ก็จะไม่ลำบากได้ไง เพราะในเเต่ละเดือนผู้หญิงแบบเราๆ ต้องมีรอบเดือนไม่ต่ำกว่า 5 – 7 วันต่อเดือน เเละก่อนจะมีประจำเดือนก็จะมีอาการที่เรียกกันว่า PMS มากวนใจอยู่บ่อยๆ เเต่จะมีอาการแบบไหนบ้างไปดูกันค่ะ
1. PMS ทำให้ท้องผูก
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเป็นสาเหตุทำให้เกิดท้องผูกได้เช่นกัน โดยเฉพาะในช่วงตกไข่ ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนจะลดลง และกล้ามเนื้อเรียบ (ที่อยู่ในระบบย่อยอาหาร มีหน้าที่ช่วยทำให้ถ่ายง่ายขึ้น) จะทำงานด้อยประสิทธิภาพลง ส่งผลทำให้เกิดอาการท้องผูก ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดอาการท้องผูก ในช่วงนี้ก็ควรจะรับประทานอาหารที่มีกากใย เพื่อช่วยลดอาการท้องผูกได้ค่ะ
2. ท้องเสีย
อาการท้องเสียนี้เกิดมาจากการเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนเอสโตรเจน โดยการเพิ่มขึ้นของฮอรโมนดังกล่าว จะมาพร้อมกับระดับฮอร์โมนเซโรโทนิน (Serotonin) ที่มากเกินไปด้วยนั่นเอง ซึ่งการมีฮอร์โมนเอสโตรเจนและเซโรโทนินที่มากจนเกินไป ก็ทำให้ท้องเสียได้
3. ลำไส้แปรปรวน
อาการลำไส้แปรปรวนสามารถพบได้บ่อยในช่วงที่มีอาการก่อนมีประจำเดือน เป็นสาเหตุของการเกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร ท้องผูก ท้องอืด ท้องเสีย และระบบย่อยอาหารในร่างกายมีปัญหาแต่ก็จะไม่รุนแรงนัก
4. หิวบ่อยขึ้น
เป็นสาเหตุเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเทอโรน ซึ่งทำให้สารอาหารบางชนิดในร่างกายของคุณลดลงจนร่างกายต้องหามาทดแทน สารอาหารเหล่านั้นได้แก่ แมกนีเซียมและธาตุเหล็ก ส่งผลทำให้คุณต้องทานมากขึ้น
อาการเหล่านี้ก็จะหายไป แค่เราเลือกรับประทานอาหารให้ถูกและหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และสำหรับสาว ๆ ที่มีอาการ PMS ค่อนข้างรุนแรง เพราะฮอร์โมนปรวนแปรอย่างหนัก คงต้องใช้ตัวช่วยอย่างการทานยาคุมกำเนิดเพื่อปรับฮอร์โมนในร่างกายให้สมดุลขึ้น โดยเลือกใช้ยาคุมกำเนิดชนิด 24+4 เม็ด ที่มีส่วนประกอบฮอร์โมน ที่ชื่อว่า Drospirenone หรือ Gestodene ซึ่งมีผลยืนยันทางการแพทย์ว่าช่วยลดอาการ PMS ทั้งอาการที่ส่งผลต่อระบบย่อยอาหาร และลดอาการอื่นๆ เช่น ปวดท้องก่อนมีประจำเดือน สิว อารมณ์หงุดหงิดแปรปรวน ได้อีกด้วย สาวๆ คนไหนอยากลองเอาไปใช้ดูก็ได้นะคะ
และหากสาว ๆ คนไหนยังมีข้อสงสัย ก็สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านฮอร์โมนและการคุมกำเนิดได้ที่.. ‘PHARMASIS’ ร้านขายยาที่เข้าใจผู้หญิง ตามร้านขายยาที่อยู่ใกล้บ้านของทุกคนได้เลยค่ะ
ค้นหาร้านขายยาที่เข้าใจผู้หญิงใกล้บ้านได้ตามลิงก์นี้เลยนะคะ คลิก