ช่องคลอดอักเสบ เป็นอาการที่ผู้หญิงอย่างเราสามารถสังเกตได้ง่ายๆด้วยตัวเอง ถ้าการตกขาวผิดปกติไปจากเดิม ก็เปรียบเสมือน เป็นสัญญาณให้เราทราบว่า บริเวณช่องคลอดอาจจะมีอาการอักเสบได้
ก่อนอื่นต้องรู้จัก การตกขาวปกติก่อนค่ะ ปกติการตกขาวมักเป็นสีขาวขุ่น หรือใส มีปริมาณเพียงเล็กน้อย ไม่มีกลิ่นที่เหม็นผิดปกติ และไม่ทำให้เกิดอาการคัน
แต่หากตกขาวมีสีอื่นๆ ไปจากนี้ เช่น สีเขียว สีเหลือง มีเลือดปน ทำให้บริเวณปากช่องคลอดคัน หรือมีกลิ่นเหม็น แสดงว่าตกขาวของคุณมีความผิดปกติ นั่นเองค่ะ
ช่องคลอดอักเสบเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ
– เชื้อรา
– เชื้อแบคทีเรีย
– เชื้อพยาธิ
– อักเสบโดยไม่ได้ติดเชื้อ
– ขาดฮอร์โมนเพศหญิง
– ช่องคลอดแพ้สารเคมี
– พบสิ่งแปลกปลอมในช่องคลอด เช่น แผ่นอนามัย ผ้าอนามัยแบบสอด ห่วงคุมกำเนิด ถุงยางอนามัย ฯลฯ
นอกจากอาการคัน ตกขาว และเชื้อรา ที่อาจทำให้คุณผู้หญิงต้องทนทรมานกับจุดซ่อนเร้นแบบที่ไม่กล้าบอกใครแล้ว ยังมีอาการผิดปกติอื่นๆ จากช่องคลอดที่เราอาจไม่ค่อยคุ้นเคยกันเท่าที่ควร แต่ก็มีโอกาสเป็นได้ทั้งกับสาวๆ ที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ หรือมีเพศสัมพันธ์แล้ว แม้ว่าจะดูแลตัวเองดีแค่ไหน แต่ก็ยังมีความเสี่ยงอยู่ เพราะมันคืออาการ “ช่องคลอดอักเสบ”
วิธีป้องกันอาการช่องคลอดอักเสบ
1. อย่าใส่เสื้อผ้า (กางเกง) ที่หนา แน่น คับ หรือมีเนื้อผ้าที่อากาศไม่ถ่ายเทเป็นเวลานานๆ
2. อย่าใช้ผ้าอนามัยเป็นเวลานาน ควรเปลี่ยนเป็นผ้าอนามัยใหม่ที่แห้ง ไม่อับชื้นอยู่เรื่อยๆ (แล้วแต่ปริมาณประจำเดือนในแต่ละวัน ของแต่ละคน)
3. อย่าปล่อยให้ช่องคลอดชื้นแฉะอยู่ตลอดเวลา
4. แผ่นอนามัย หากไม่จำเป็นไม่ควรใช้บ่อย หรือไม่ควรใช้ไปตลอดทั้งวัน เพราะส่วนใหญ่จะทำให้บริเวณช่องคลอดอับชื้น
5. การออกกำลังส่วนต้นขา ให้ขาเล็กลง และลดน้ำหนัก จะช่วยลดความอับชื้นจากการที่ต้นขาเบียดกันได้
6. รักษาความสะอาดบริเวณช่องคลอดอยู่เสมอ แต่ไม่ควรสวนล้างช่องคลอดเข้าไปด้านใน ควรล้างทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่าเฉพาะด้านนอกเท่านั้น
7. ทำความสะอาดอวัยวะเพศด้วยการเช็ดด้วยกระดาษชำระจากด้านหน้าไปด้านหลัง เพื่อลดโอกาสในการติดเชื้อจากทวารหนัก