กางแผนที่ให้พร้อมแล้วเสิร์ชหาตั๋วเครื่องบินรัวๆ กับ 10 จุดหมายปลายทางสุดโรแมนติกที่ไม่รับประกันความฟินสำหรับคนโสด แต่การันตีความหวานหยดสำหรับสาวๆ ที่กำลังแพลนควงหนุ่มรู้ใจแอบไปสวีท และนี่คือ 10 เมืองเล็กโรแมนติกสุดฟิน ชวนแฟนบินไปบอกรักที่เราคัดมาให้
ชิราคาวาโกะ, ญี่ปุ่น
ชิราคาวาโกะ (Shirakawago) เมืองมรดกโลกกลางหุบเขาที่ทั้งหมู่บ้านเต็มไปด้วยบ้านชาวนาแบบโบราณอายุเกือบ 300 ปี กว่าร้อยหลัง ในฤดูใบไม้ร่วงที่นี่ว่าสวยแล้ว แต่ฤดูหนาวคือช่วงเวลาที่สวยที่สุด เพราะเมืองทั้งเมืองถูกปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน แถมในเวลากลางคืนยังมีการจัดไฟส่องเข้าตัวบ้านอย่างสวยงามเปลี่ยนบรรยากาศของหมู่บ้านเกษตรกรรมให้กลายเป็นหมู่บ้านในเทพนิยายไปเลย ที่สำคัญสามารถจองที่พักอุ่นๆ ภายในบ้านโบราณ เรียนทำโซบะ กินอาหารพื้นเมืองได้เช่นกัน
Zaanse Schans, เนเธอร์แลนด์
เมืองแห่งกังหันลมที่อยู่ใกล้กับเมืองหลวงอัมสเตอร์ดัมจนสามารถนั่งรถไฟเที่ยวแบบวันเดย์ทริปได้ง่ายมาก ต้องยกความดีให้กับกังหันลมตัวใหญ่ที่ตั้งเรียงรายอยู่ริมแม่น้ำ สลับกับวิวทุ่งดอกไม้ที่เสริมให้เมืองนี้ติดอันดับความโรแมนติกได้อย่างง่ายดาย ที่ไม่ว่าจะยกกล้องไปมุมไหนก็สวยไปหมด แถมยังมีบ้านแบบดัชท์สีสันสดใส โรงงานทำรองเท้าไม้ ร้านอาหารในบรรยากาศฟาร์มให้ได้แวะพักถ่ายรูปอยู่ตลอด จะปั่นจักรยานเที่ยว หรือเดินควงแขนกันเที่ยวได้แบบไม่ต้องกลัวขาขวิดแต่อย่างใด
Saariselka, ฟินแลนด์
อัดความหนาวเย็นให้เต็มปอดกับเมืองแห่งสกียอดนิยมของฟินแลนด์ แต่ไม่ต้องกังวลว่าคุณจะเล่นสกีไม่เป็น เพราะเราจะชวนคุณและคุณแฟนพุ่งตรงไปเช็คอินนอนชมแสงเหนือชิลๆ ที่ Kakslauttanen Artic Resort รีสอร์ตในเรือนกระจกใสถอดแบบมาจากบ้านของชาวเอสกิโม แน่นอนว่าโรงแรมที่ว่าตั้งอยู่ท่ามกลางหิมะขาวโพลนที่มีแนวต้นสนขนาดใหญ่ดั่งกำแพง แต่ละห้องเน้นความเป็นส่วนตัวและตั้งอยู่ห่างกัน ให้คุณได้สวีทแบบไม่ต้องเขินเพื่อนบ้าน
กุสโก, เปรู
ความโรแมนติกของแต่ละคู่รักนั้นย่อมแตกต่างกันออกไป และสำหรับคู่รักสายแอดเวนเจอร์ ขอแนะนำให้รู้จักกับเมืองหลวงของชาวอินคาโบราณที่ชื่อกุสโก (Cusco) ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลนักจากสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอย่างมาชูปิชู ที่กุสโกนั้นนอกจากจะจัดเต็มด้วยความงามของธรรมชาติและโบราณสถานของชาวอินคาแล้ว ยังมีห้องพักชื่อดังระดับโลก Skylodge Adventure Suite ของ Natura Vive ที่ถูกออกแบบให้เป็นแคปซูลกระจกใส แขวนไว้ริมหน้าผา…ย้ำว่าแขวนไว้ริมหน้าผาที่ต้องโหนสลิงโรยตัวกว่าจะถึงที่พัก แต่ถึงแม้จะดูท้าทายไปสักนิด แต่วิวนั้นอลังการมาก สามารถมองดูดาว ภูเขา และพื้นดินเบื้องล่างได้พร้อมกัน
ดาลัด, เวียดนาม
ไม่ต้องบินไปไกลถึงยุโรปก็สามารถสัมผัสอากาศที่หนาวเย็นและสีสันแห่งดอกไม้ได้ที่เมืองดาลัด ซึ่งตั้งอยู่ตอนกลางของประเทศเวียดนาม ด้วยอากาศที่เย็นสบายตลอดปีทำให้ดาลัดนั้นได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งฤดูใบไม้ผลิที่เต็มไปด้วยทุ่งดอกไม้ขนาดใหญ่กระจายอยู่ตามหุบเขา แต่ที่น่ารักยิ่งกว่าคือบ้านเรือนโคโลเนียลสีเหลืองมัสตาร์ดและชมพูหวาน ผสมผสานระหว่างเวียดนามและฝรั่งเศส จนหลายคนเรียกที่นี่ว่าเป็น Little Paris เลยทีเดียว
พยินอูลวิน, เมียนมา
เราอยากให้คุณลองเปิดพื้นที่หัวใจสักนิดให้กับเมืองตากอากาศเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของมัณฑะเลย์ ที่นี่กำลังจะทำให้ความจำเดิมๆ เกี่ยวกับเมียนมาที่มีแต่วัดและวังหมดไป พยินอูลวิน (Pyin Oo Lwin) นี้เต็มไปด้วยบ้านเรือนลูกครึ่งเมียนมา อังกฤษ ให้ฟีลเหมือนกระท่อมในหมู่บ้านชนบทที่มีความชวนฝันแบบดีสนีย์ บ้านเกือบทุกหลังมีปล่องไฟ เตาผิง ทั่วทั้งเมืองมีแต่เสียงกรุบกรับของรถม้า ในฤดูหนาวยังมีเทศกาลบอลลูน และดอกไม้เมืองหนาว เป็นความสวีทที่ไม่คาดคิดว่าจะได้มาเจอที่เมียนมา และที่เซอร์ไพรส์ยิ่งกว่าคือรีสอร์ตส่วนใหญ่ต่างก็ตกแต่งในโทนโคโลเนียลหวานเสียยิ่งกว่าบรรยากาศเมืองเสียอีก
ฮัลสตัทท์, ออสเตรีย
ฮัลสตัทท์ (Hallstatt) เมืองมรดกโลกขนาดเล็กริมทะเลสาบที่ขึ้นชื่อว่าสวยติดอันดับโลก พลัสความงามเข้าไปอีกเท่าตัวในช่วงฤดูหนาวที่มีหิมะขาวปกคลุมไปทั่วเมือง โดยความพิเศษของฮัลสตัทท์อยู่ที่การจัดวางแผนผังเมืองให้อาคารบ้านเรือนซึ่งเป็นทรงยุโรปเก่าแก่ ตั้งลดหลั่นกันอยู่เรียบริมทะเลสาบ โดยมีภูเขาสูงโอบล้อมรอบด้าน แนะนำให้มองหาร้านน้ำชาเล็กๆ สักร้านสำหรับจิบชาชมวิวชิลๆ เท่านี้ก็โรแมนติกเบอร์ร้อยได้แล้ว
เกรละ, อินเดีย
สำหรับคู่รักที่ไม่ชอบความจำเจ เมืองเกรละ (Kerala) อินเดียใต้ คืออีกจุดหมายที่แม้ไม่ได้มีพระราชวังขนาดใหญ่แบบทางอินเดียเหนือ ทว่ากลับผ่อนคลายด้วยโปรแกรมล่องเรือไม้ท้องถิ่นกลางทะเลสาบขนาดใหญ่ อย่าลืมจองห้องทรีตเมนต์คู่สำหรับนวดตัว เพราะเกรละคือจุดเริ่มต้นของศาสตร์การนวดแบบอายุรเวช ส่วนโรงแรม รีสอร์ตนั้นแม้จะเป็นเมืองเกษตรกรรม แต่ก็มีรีสอร์ตไฮแบรนด์อินเดียไปตั้งอยู่เช่นกัน
กอลมาร์, ฝรั่งเศส
แผนผังเมืองที่มีคลองเล็กๆ ผ่ากลางจนได้ฉายา Little Venice บวกกับความวุ่นวายที่น้อยกว่าเมืองหลวง ทำให้คู่รักหลายคู่ตัดสินใจเดินทางมายังกอลมาร์ (Colmar) แต่มากกว่าสีสันของอาคารเก่า กอลมาร์ยังมีตลาดคริสมาสต์ที่โด่งดังอันดับต้นๆ ในยุโรป โดดเด่นด้วยตลาดคริสมาสต์ย่อมๆ ที่กระจายอยู่ทุกมุมเมือง ครบทั้งไวน์เทสต์ติ้ง อาหารท้องถิ่น งานคราฟท์ ของเล่น และการประดับไฟในอาคารเก่าทั่วเมือง
เบลด, สโลวีเนีย
นอกจากภูเขาหิมะสีขาวที่โอบล้อมเมืองเล็กๆ สีขาวหิมะไว้แล้ว เบลด (Bled) ยังมีเกาะกลางทะเลสาบขนาดเล็กซึ่งเป็นที่ตั้งของปราสาทหอคอยสูงตระหง่าน ขาดก็แต่เจ้าชายขี่ม้าขาวก็จะครบองค์ประกอบของฉากในเทพนิยาย แน่นอนว่าโบสถ์แห่งนี้เป็นสถานที่ที่หนุ่มสาวชาวเมืองมักจะมาจัดงานแต่งงานกัน
แค่นึกตามก็ฝันหวานแล้ว… ช้าอยู่ใย ชวนหวานใจข้างๆ วางแผนไปเที่ยวกันเถอะ!
