7 ไลฟ์สไตล์ ทำประจำเดือนผิดปกติ
ผู้หญิงที่มีประจำเดือนเป็นปกติมักไม่มีปัญหาสุขภาพ แต่ด้วยวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปในปัจจุบัน ทำให้สาวๆ สมัยนี้จำนวนไม่น้อยประจำเดือนเคลื่อน มามากไป มาน้อยไป มากะปริบกะปรอย หรือประจำเดือนขาดหายไปนานหลายเดือน เพราะอะไรน่ะเหรอ ลองดูกันเลยค่ะ
1. เอาแต่เครียด
เมื่อเราคิดมากหรือเครียด ความเครียดจะไปรบกวนสมองส่วนไฮโปทาลามัสโดยตรง ทำให้ไฮโปทาลามัสจะไม่สร้างฮอร์โมนมากระตุ้นต่อมใต้สมอง ต่อมใต้สมองก็จะไม่สร้างฮอร์โมนมาที่รังไข่ รังไข่ก็ไม่สร้างฮอร์โมนมาที่โพรงมดลูก สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือไม่มีประจำเดือน ทำให้ประจำเดือนเลื่อนออกไป หรือประจำเดือนขาด
2. การออกกำลังกายหนักเกินไป
การออกกำลังกายหลาย ๆ ชั่วโมงในแต่ละวัน อาจทำให้ประจำเดือนเลื่อนออกไป เพราะร่างกายเข้าใจว่าการออกกำลังกายอย่างหนักนี้คือตัวที่ทำให้ร่างกายเครียด ทำให้การทำงานของฮอร์โมนต่าง ๆ ที่ทำงานประสานกันดีเกิดรวนขึ้นมาได้
3. กินอาหารผิดๆ
เชื่อไหมว่าการกินอาหารที่มีคุณค่าทางอาหารน้อยจะก่อกวนการทำงานของต่อมอะดรีนาลีนและต่อมไทรอยด์ เช่น อาหารที่มีน้ำตาลในปริมาณมาก ๆ อาหารที่มีไขมันทรานส์ และสารปรุงแต่งต่าง ๆ ล้วนส่งผลเสียต่อต่อมไทรอยด์ ตลอดจนส่งผลให้เกิดอาการเหนื่อยล้า และทำให้ฮอร์โมนคอร์ติซอลเพิ่มระดับขึ้น ซึ่งขัดขวางไม่ให้ฮอร์โมนเพศทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
4. สายดริ๊ง
การดื่มแอลกอฮอล์จะเพิ่มระดับของฮอร์โมนเอสโทรเจนและเทสโทสเทอโรน ซึ่งจะเข้าไปก่อกวนระดับฮอร์โมนตามปกติที่ทำให้ไข่ตก ทำให้รอบประจำเดือนจะผิดปกติไป และอาจทำให้ประจำเดือนขาด
5. ทำงานกะดึกและเปลี่ยนกะบ่อย
จากงานวิจัยพบว่าคนที่เข้ากะเย็นและกะกลางคืนมีความเสี่ยงที่จะมีปัญหาเกี่ยวกับรอบเดือนมากกว่าผู้หญิงที่ทำงานในเวลาปกติร้อยละ 33 และคนที่ต้องเปลี่ยนกะเข้างานบ่อยๆ จะพบทั้งปัญหาการมีรอบเดือนสั้นหรือยาวกว่าปกติ คือสั้นกว่า 21 วัน หรือยาวกว่า 40 วัน
6. สูบบุหรี่
การสูบบุหรี่เปลี่ยนระดับฮอร์โมนเอสโทรเจน โพรเจสเทอโรน เทสโทสเทอโรน ตลอดจนฮอร์โมนอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับการเกิดอาการก่อนมีประจำเดือน (PMS) แถมสาวๆ ที่สูบบุหรี่มีแนวโน้มที่จะมีรอบประจำเดือนสั้นกว่าปกติและมีรอบประจำเดือนที่ไม่ปกติอีกด้วย
7. ใช้ยาบางชนิด
การใช้ยาคุม ทำให้ประจำเดือนมาน้อย มาห่าง มาถี่ผิดปกติ มาแบบเว้นเดือนไป หรือไม่มาเลย นอกจากนี้ยังมียาจำพวกต้านอาการซึมเศร้า และยารักษาอาการทางจิตเวช ซึ่งอาจมีผลให้ประจำเดือนผิดปกติไป
#ผู้หญิงไม่ยอมแพ้
ขอบคุณที่มารูปภาพและเนื้อหาจาก: Yesmomapp
อ่านต่อเพิ่มเติมได้ที่: www.facebook.com/NeverSurrenderThailand