ผู้หญิงยุค 2020 ใครว่าง่าย! เปิดใจปรับความคิด ก้าวข้ามปัญหาสู่ความสำเร็จ
ในช่วงที่โลกกำลังเผชิญกับ COVID-19 แบบนี้ ผู้หญิงอย่างเราก็ยิ่งต้องดูแลตัวเองแบบพิเศษขึ้นกว่าเดิม 2 เท่า ถึงแม้จะ Work From Home แต่ยังไงผู้หญิงอย่างเราก็ต้องสวยเริ่ดและสุขภาพดีไว้ก่อน ทั้งร่างกายและจิตใจ ยิ่งเป็นเรื่องจิตใจด้วยแล้ว ยิ่งต้องให้ความสำคัญ เพราะสมัยนี้ผู้หญิงอย่างเรามีเรื่องต้องคิดมากมาย ตั้งแต่เรื่องเล็กๆ ไปจนถึงเรื่องใหญ่
ในปี 2020 นี้ เรามีบทบาทมากขึ้น ทั้งในครอบครัวและที่ทำงาน ผู้หญิงหลายคนก็ประสบความสำเร็จกันมากมาย แต่กว่าจะประสบความสำเร็จจนเป็นที่ยอมรับได้ก็ต้องผ่านเรื่องเครียดๆ จนบั่นทอนจิตใจมากมาย โดยเฉพาะทุกวันนี้ที่มีหลายปัจจัยที่ก่อให้เกิดความเครียดและความกังวล เช่น เรื่องการงาน การเงิน ปัญหาสุขภาพ รวมถึง การเป็นเสาหลักของครอบครัว อีกด้วย
วันนี้เราจึงนำคำแนะนำดีๆ จากมุมมองนักจิตวิทยา ครูพิม ณัฏฐณี สุขปรีดี – นักจิตวิทยา ที่มีดีกรีปริญญาตรี และ ปริญญาโท ด้านจิตวิทยา จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมประสบการณ์ทำงานด้านที่ปรึกษาเชิงจิตวิทยามากว่า 8 ปี จะมาแชร์ แนวคิดให้ผู้หญิงก้าวข้ามปัญหา แล้วพบกับความสำเร็จในแบบของตัวเองกันค่ะ
5 เรื่องที่ผู้หญิงยุค 2020 ยังกังวล ในมุมมองของนักจิตวิทยา
- รูปร่างหน้าตา
ผู้หญิงหลายคนหมดเงินค่าเครื่องสำอาง สกินแคร์เดือนนึงไม่ใช้น้อย เพื่อสร้างความมั่นใจในการใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่นๆ แต่ก็มีหลายคนที่ไม่ได้เกิดมารูปร่างหน้าตาเป็นแบบพิมพ์นิยม แม้ว่าเทรนด์ความสวย 2020 ไม่ได้มีคำนิยามเพียงด้านเดียวแล้วก็ตาม
ครูพิมได้ออกความเห็นกับเรื่องนี้ว่า
“คำว่าสวยตามพิมพ์นิยมแน่นอนว่าก็เป็นส่วนหนึ่งของความคาดหวังทางสังคม ซึ่งเปลี่ยนแปลงเรื่อยๆ ไม่ต่างจากแฟชั่น
เราจะรู้สึกดีกับตัวเองจริงไหม? หากเปลี่ยนแปลงตัวเองไปเรื่อยๆ ตามบริบทของสังคม ดังนั้น เราจึงควรเริ่มจากการยอมรับและมองเห็นคุณค่า และ จุดเด่นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นความสามารถพิเศษ ลักษณะนิสัย หรือจะเป็นทัศนคติก็ได้ หากยังไม่รู้ว่าข้อดีของตัวเองเป็นอย่างไร ให้เริ่มจากการลองถามคนใกล้ตัวหรือคนที่เราไว้ใจได้ คำตอบที่ได้อาจทำให้สาวๆ รักตัวเองมากขึ้นก็ได้นะคะ”
- ความเท่าเทียมในสังคม
ถ้าเป็นเมื่อก่อนผู้หญิงเราคงไม่ได้เรียนหนังสือ ทำงานได้ไม่กี่อาชีพ แต่ในปัจจุบัน มีการผลักดันเรื่องสิทธิสตรีทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย ซึ่งเรื่องนี้ได้รับการตอบรับที่ดีมากมาย แล้วทำไม? เราก็ยังรู้สึกถึงความไม่เท่าเทียมกันทางเพศอยู่ล่ะ ?
ครูพิมได้ให้ข้อคิดในเรื่องนี้ว่า
“อยากให้ทุกคนมองเป็นความเท่าเทียมของเพศภาพ เป็นความเท่าเทียมกันของมนุษย์ไปเลยมากกว่า เพราะความเท่าเทียมทางเพศก็จะมีการแบ่งแยกอยู่ใช่ไหมล่ะคะ การลดความไม่เท่าเทียมเราต้องยอมรับความแตกต่างในทุกๆ ด้านของกันและกัน มองที่ตัวบุคคลไม่ใช่เพราะเขาเป็นเพศใดหรือเป็นคนกลุ่มไหน นี่แหละกรอบความคิดที่จะเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะช่วยลดปัญหาความไม่เท่าเทียมต่างๆ ได้อย่างแท้จริง”
- การเป็นผู้นำ
ผู้หญิงหลายๆ คนเริ่มมีบทบาทในการเป็นผู้นำตั้งแต่ระดับองค์กรจนถึงผู้นำประเทศ แต่ถ้าลองถามเด็กนักศึกษาผู้หญิงจบใหม่ หลายๆ คนยังกังวลเรื่องงานในอนาคต เพราะส่วนมากคนที่มีตำแหน่งงานที่ดี ก็มักจะเป็นผู้ชายที่ได้ไป เลยยังคิดไม่ออกว่าถ้าวันหนึ่งได้ก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้า มาเป็นผู้นำ จะต้องทำยังไง ลูกน้องจะเคารพเราแบบผู้ชายไหม
ครูพิมแนะนำว่า
“จริงๆ แล้ว สิ่งสำคัญต่อการประสบความสำเร็จในชีวิตคือวิธีการคิดหรือทัศนคติที่มีต่อตนเองและต่อผู้อื่น หากเราตั้งต้นด้วยทัศนคติดเชิงลบเพราะความเป็นผู้หญิงของตัวเอง ชีวิตของเราคงจะประสบความสำเร็จยาก เพราะความคิดแบบนี้ ทำให้เราหยุดที่จะพัฒนาตนเอง หากเรามองความสามารถของเราตามความเป็นจริง ก็จะเป็นแรงผลักดันให้เราพัฒนาตนเองและจนประสบความสำเร็จได้ บางทีอาจจะให้ความสุขเราได้มากกว่าการประสบความสำเร็จตามความคาดหวังของสังคมเสียอีกค่ะ”
- สุขภาพและโรคภัย
ต้องยอมรับว่าโรคที่เกิดในผู้หญิงมีมากกว่าผู้ชาย ถึงแม้สมัยนี้จะมีความก้าวหน้าทางการแพทย์ แต่ก็ไม่ควรประมาทในการใช้ชีวิต เราต้องดูแลตัวเองให้มากๆ ถ้ากังวลเรื่องสุขภาพ ก็ควรให้ก็จัดการที่ต้นเหตุเลยค่ะ เช่นไปตรวจสุขภาพประจำปี ถ้าไม่เป็นอะไรก็สบายใจได้ แต่ถ้าเป็นรู้เร็วก็รักษาได้ทัน ย่อมดีกว่ามารู้ทีหลังแล้วเครียด เป็นกังวล จนทำให้ร่างกายทรุดโทรม เพราะความเครียดเราให้ภูมิคุ้มกันของเราลดลง จนก่อให้เกิดโรคทางใจก็จะตามมาอีกนะคะเอาเป็นว่าเลิกกลัวแล้วไปตรวจและดูแลสุขภาพตัวเองตั้งแต่ตอนนี้ดีกว่าค่ะ
- การแต่งงาน
ในสังคมไทยมองว่าผู้หญิงเมื่ออายุเหมาะสมต้องแต่งงานมีครอบครัว แต่ตอนนี้โลกเปลี่ยนไปแล้วค่ะ ไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนที่อยากจะแต่งงาน มีลูก เป็นแม่บ้านตามแบบที่สังคมคาดหวัง นี่มันปี 2020 แล้วนะคะ แต่ถึงรู้แบบนี้หลายๆ คน ก็ยังมีความกังวลในเรื่องนี้อยู่
ครูพิม ได้ให้คำแนะนำในประเด็นนี้ว่า
“ความกังวลเรื่องคู่ครองเป็นเรื่องปกติของสัตว์สังคมอย่างมนุษย์ ถ้าเราจะไม่กังวลเลยนั่นอาจจะเป็นเรื่องที่เป็นปัญหามากกว่า
แล้วเราควรทำอย่างไรให้อยู่กับความคาดหวังเหล่านั้นได้อย่างเป็นสุข ขอแนะนำว่าเริ่มแรก เราควรเห็นคุณค่าในตนเองและรู้จักตัวเองให้มากพอ เมื่อเรารู้ว่าตัวเรามีค่าและรู้ว่าสังคมต้องการคนแบบไหน เราก็จะสามารถหาสมดุลนั้นได้ ทำให้การแสดงออกของเราต่อสังคม เป็นไปอย่างพอเหมาะพอดี เพราะคนเราสามารถปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเองได้เสมอ หากเรารู้จักวิธีที่เหมาะสมกับตัวเองค่ะ”
นอกจากนี้ อีกหนึ่งสถานการณ์ที่ทำให้ผู้หญิงอย่างเรากังวลมากๆ คงจะหนีไม่พ้นเรื่องผลกระทบจากการระบาดของไวรัส COVID-19 ทั้งในด้านการงาน การเงิน ไหนจะความเบื่อหน่ายจากการกักตัวนานๆ ซึ่งอาจจะทำให้ความคิดฟุ้งซ่านได้ “Never Surrender” เป็นห่วงนะ อย่าเครียดมากเดี๋ยวจะไม่สวยนะคะ เพราะสุดท้ายแล้วความกังวลทุกอย่างเกิดจากความคิด จิตใจของเราเอง เพราะฉะนั้นถ้าเราเปลี่ยนมุมมอง ปรับความคิดและก้าวข้ามข้อจำกัดเก่าๆ ได้ เท่านี้เราก็ไม่มีอะไรต้องกังวลแล้วค่ะ
#ผู้หญิงไม่ยอมแพ้ #NeverSurrender
สัมภาษณ์ : ณัฏฐณี สุขปรีดี นักจิตวิทยาพัฒนาการ