#เคยแพ้ อ้วนบวม ปวดประจำเดือน… แก้ยังไงดีนะ?
รู้ไหมคะ? ว่าผู้หญิงจำนวนมากถึง 95% ต้องประสบปัญหาอาการก่อนมีประจำเดือน เช่น ภาวะอารมณ์แปรปรวน หงุดหงิด หดหู่ ไม่มีสมาธิ ซึมเศร้า ที่มาพร้อมกับอาการทางร่างกาย เช่น อ้วนบวม ตึงคัดเต้านม ปวดศรีษะ ท้องอืด อยากอาหารมากกว่าปกติ แม้กระทั่งการปวดท้องประจำเดือน ซึ่งบางคนอาจจะควบคุมอาการไม่ได้ ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน เนื่องจากฮอร์โมนที่แปรปรวน ทางรักษาควรหลีกการเกิดเลี่ยงความเครียด หมั่นออกกำลังกาย งดแอลกอฮอล์ งดคาแฟ และเลือกใช้ยาคุมที่เป็นสูตร 24/4 (เม็ดฮอร์โมน 24 เม็ดและ เม็ดแป้ง 4 เม็ด) นอกจากนี้ ยาคุมสูตร 24/4 ยังมีปริมาณเอสโตรเจนต่ำ และโปรเจสโตเจนชนิดที่ออกฤทธิ์ต้านการบวมน้ำ จึงช่วยลดอาการบวมน้ำหรืออ้วนจากการใช้ยาคุมได้
การรับประทานยาคุมกำเนิด ให้เริ่มทานยาเม็ดแรกในวันแรกที่มีประจำเดือน โดนทานเวลาเดิมทุกครั้งจนหมดแผง ถ้าเป็น 24/4 เม็ด ให้ทานแผงต่อไปได้เลย ไม่ต้องหยุด หากเป็นแบบ 21 เม็ด ให้เว้น 7 วันค่อยทานแผงใหม่

#เคยแพ้ สิวมา หน้ามัน… แก้ยังไงดีนะ?
เมื่อถึงวันนั้นของเดือน ฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลงขึ้นลง ทำให้หน้ามันเป็นสิว ปัญหาสิวมากกว่า 80% เกิดจากฮอร์โมนเพศ โดยเฉพาะฮอร์โมนแอนโดรเจน (ฮอร์โมนเพศชาย) ที่จะไปกระตุ้นให้มีการผลิตไขมันมากเกินไป เมื่อไขมันที่ขับออกมาอุดตัน ตามรูขุมชน ก็จะทำให้เป็นสิวง่าย พบมากในช่วงวัยรุ่น สามารถรักษาได้ด้วยการรักษาความสะอาดของใบหน้า หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอาง หรือรักษาได้ด้วยเลือกใช้ยาคุมกำเนิดชนิดที่มีเม็ดฮอร์โมน โปรเจสโตรเจน ชนิดที่ออกฤทธิ์ต้านฮอร์โมนเพศชาย ได้แก่ ดรอสไพรีโนน ซึ่งจะช่วยลดการผลิตไขมันจากต่อมไขมันบริเวณผิวหน้า ที่เป็นต้นเหตุของสิว ผิวหน้ามัน ฮอร์โมนนี้จะช่วยทำให้ต่อมน้ำมันขับไขมันออกมาน้อยลง ส่งผลให้อาการหน้ามัน และสิวลดลง ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุการเกิดสิว เป็นวิธีที่ได้ผลดีค่ะ
อย่างไรก็ตาม วิธีนี้เป็นหนึ่งในวิธีทางการแพทย์ ใช้ในการรักษาสิว แต่ไม่สามารถที่จะรักษาสิวให้หายได้เร็วทันใจ แต่จะเห็นผลดีขึ้นภายใน 2-4 สัปดาห์เพื่อให้ได้ผลดีที่สุด ควรใช้ยาคุมฮอร์ไมนต่อเนื่องอย่างน้อย 3 แผงขึ้นไปนะคะสาวๆ

#เคยแพ้ คลื่นไส้ วิงเวียน… แก้ยังไงดีนะ?
ผู้หญิงหลายๆคนที่ต้องทนกับผลข้างเคียงจากการเลือกยาคุม ที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสโตเจนไม่เหมาะสมกับตัวเอง เอสโตรเจนจะมีข้อดีในแง่ช่วยเสริมฤทธิ์ในการคุมกำเนิดและควบคุมรอบเดือนให้เป็นปกติ แต่ถ้าขนาดที่ได้รับไม่เหมาะสมในแต่ละบุคคล ก็ก่อให้เกิดอาการข้างเคียงต่างๆ กับผู้ใช้ยา เช่น คลื่นไส้ อาเจียน บวมน้ำ ตึงคัดเต้านม ปวดไมเกรน น้ำหนักเพิ่ม กระตุ้นให้เกิดฝ้า ฯลฯ
ยาคุมกำเนิดใหม่ๆที่ออกสู่ตลาด จึงพยายามลดปริมาณเอสโตรเจนให้เหลือต่ำที่สุด เพียง 15 ไมโครกรัม เท่านั้น เพื่อลดอาการข้างเคียงจากฮอร์โมนนั่นเองค่ะ ขณะเดียวกัน ก็มีการพัฒนาสูตรยาใหม่ๆ เช่นสูตร 24/4 ที่มีเม็ดฮอร์โมน 24 เม็ด เม็ดแป้ง 4 เม็ด ซึ่งนอกจากจะมีประสิทธิภาพดีขึ้น แล้วยังช่วยลดกลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน ซึ่งเป็นปัญหาที่ผู้หญิงพบบ่อย เช่น ตึงคัดเต้านม ปวดเมื่อย ฯลฯ ได้อีกด้วยนะคะ
การเลือกใช้ระดับฮอร์โมนที่เหมาะสม อาจเริ่มต้นจากระดับฮอร์โมนที่ต่ำมากก่อน โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีลักษณะต่อไปนี้
- ผู้ที่มีเอสโตรเจนในร่างกายสูงอยู่แล้ว เช่น ผู้หญิงที่รูปร่างท้วม มีหน้าอก ประจำเดือนมามาก
- ผู้ที่เคยทานยาคุมแล้วมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เวียนศรีษะ เนื่องจากการทานยาคุมกำเนิดที่มีปริมาณฮอร์โมนไม่เหมาะสม
- ผู้ที่เริ่มใช้ยาคุมครั้งแรก
- ผู้ที่เป็นไมเกรน
อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดที่ถูกต้อง ควรคำนึงถึงประโยชน์และความเสี่ยงต่างๆ จากการใช้ยาคุมด้วยเสมอ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดและมีอาการข้างเคียงต่ำสุดค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก: ภญ. พรฤดี อุทัยนฤมล
อ่านต่อเพิ่มเติมได้ที่: www.facebook.com/NeverSurrenderThailand
(Visited 640 times, 1 visits today)