สาวๆ เคยเป็นไหม? รู้สึกคันตรงจุดซ่อนเร้นจนแทบทนไม่ไหว แถมบางครั้งยังมีตกขาวกลิ่นแปลกๆ หากมีอาการแบบนี้ให้สงสัยไว้เลยว่าอาจเกิดจากเชื้อราในช่องคลอดก็ได้

อาการคันบริเวณช่องคลอด
เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย หรือโปรโตซัวก็ได้ แต่ที่พบบ่อยที่สุดคือการติดเชื้อราชนิด Candida albican โรคเชื้อราในช่องคลอดพบได้ในผู้หญิงทุกเพศทุกวัย แม้ไม่ใช่โรคที่มีอันตรายรุนแรง แต่อาการของมันก็สร้างความลำบากแก่ชีวิตสาวๆ ไม่น้อย โดยอาการที่สังเกตได้ ได้แก่

คันบริเวณปากช่องคลอดอย่างมาก
• บางครั้งอวัยวะเพศอาจมีผื่นบวมแดง มีอาการแสบร้อนระคายเคืองด้วย
• เวลาปัสสาวะหรือมีเพศสัมพันธ์ จะรู้สึกแสบ
• มีตกขาวสีขาวขุ่น จับตัวเป็นก้อนคล้ายแป้งเปียก มีกลิ่นเปรี้ยวเหมือนนมบูด
สาเหตุของเชื้อราในช่องคลอด
โดยปกติบริเวณช่องคลอดเราจะมีเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราประจำถิ่นอาศัยอยู่ ซึ่งเชื้อเหล่านี้จะไม่ก่อโรค แต่หากเกิดสภาวะไม่สมดุลทำให้เชื้อราเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว ก็อาจเกิดการติดเชื้อจนมีอาการได้ สาเหตุที่ทำให้เชื้อราก่อโรคเพิ่มจำนวนมากกว่าปกติ ได้แก่

• บริเวณอวัยวะเพศไม่สะอาดและอับชื้น เนื่องจากดูแลไม่ดีพอ เช่น หลังอาบน้ำแล้วไม่เช็ดให้แห้งก่อนสวมเสื้อผ้า สวมกางเกงในที่เหม็นอับ หรือใส่ผ้าอนามัยแผ่นเดิมนานๆ โดยไม่ยอมเปลี่ยน
• สวนล้างช่องคลอดด้วยสบู่ที่รุนแรง ทำให้ช่องคลอดเสียสมดุล และเชื้อประจำถิ่นถูกกำจัดไป เชื้อโรคอื่นๆ จึงฉวยโอกาสมารุกรานได้ง่าย
• ใช้ยาปฏิชีวนะติดต่อกันเป็นเวลานาน ทำให้แบคทีเรียบริเวณช่องคลอดถูกทำลาย เชื้อราก่อโรคอื่นๆ จึงเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว
• ภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอลง เช่น อยู่ในช่วงตั้งครรภ์ หรือเป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง
• ติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์ เนื่องจากอวัยวะเพศชายไม่สะอาด

การรักษาเชื้อราในช่องคลอด
หากมีอาการรุนแรงและไปหาหมอ จะรักษาด้วยการใช้ยา โดยยาจะเป็นกลุ่มยาต้านเชื้อราที่มีทั้งรูปแบบยากิน ทายา ยาเหน็บ และยาเม็ดสอดช่องคลอดอย่าง นีโอ-เพโนทราน ฟอร์ท (Neo-Penotran Forte) รักษาการติดเชื้อทั้ง 3 ชนิด คือ เชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด เชื้อทริโคโมแมสในช่องคลอด และเชื้อราแคนดิดาในช่องคลอด ประสิทธิภาพสูง สะดวกและปลอดภัยมากๆ และที่สำคัญผู้หญิงตั้งครรภ์ก็สามารถใช้ได้อีกด้วย
นอกจากการรักษาด้วยยาแล้ว สาวๆ จะต้องดูแลรักษาความสะอาดของจุดซ่อนเร้นไม่ให้อับชื้น หากมีอาการคันก็ไม่ควรเกาแรงๆ เพราะจะทำให้เกิดแผลได้ และงดการสวนล้างช่องคลอด ให้เปลี่ยนมาใช้สบู่อ่อนหรือน้ำเปล่าและล้างทำความสะอาดเฉพาะภายนอกเท่านั้น และหากสงสัยว่าหนุ่มคู่นอนจะติดเชื้อด้วย ก็ควรให้มารักษาพร้อมกันเลย

การป้องกันเชื้อราในช่องคลอด
• ดูแลจุดซ่อนเร้นไม่ให้สกปรกและอับชื้น หากอาบน้ำหรือปัสสาวะควรเช็ดให้แห้งก่อนสวมเสื้อผ้า ควรเลือกกางเกงและกางเกงชั้นในที่ระบายอากาศได้ดี ไม่รัดแน่นจนเกินไป
• ควรเปลี่ยนมาใช้ผ้าอนามัยแบบแผ่นแทนแบบสอด เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าไปในช่องคลอด และควรเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆ
• ไม่ควรล้างสวนช่องคลอด โดยเฉพาะการใช้สบู่มีฤทธิ์แรงๆ นั้นควรงดเด็ดขาด ให้ใช้น้ำเปล่าหรือสบู่อ่อนๆ ล้างภายนอกเท่านั้นก็พอแล้ว

(Visited 2,682 times, 1 visits today)